fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ดีเดย์! 9 ม.ค.66 เริ่มตัดแต้มจราจร

Featured Image
ดีเดย์! 9 ม.ค.66 เริ่มตัดแต้มจราจรครั้งแรก หวังสร้างวินัยจราจรลดอุบัติเหตุ -ผบ.ตร.ยันไม่มีเรียกรับผลประโยชน์

 

 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานกำกับกฎเกณฑ์และกฎหมาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงประชาสัมพันธ์ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือระบบตัดแต้ม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างระบบดังกล่าว

 

 

ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล ตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ภายใต้สโลแกนมุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐานสากล

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า สาระสำคัญของระบบนี้ คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมยืนยันว่าการตัดแต้มดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่นอน และเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีวินัยการจราจรและลดฝ่าฝืนและอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

 

สำหรับการตัดคะแนนแบ่งออกเป็นกลุ่มความผิดหลักที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ (20 ฐานความผิด) จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที ตั้งแต่ 1คะแนนจนถึง 4 คะแนน เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตัด 2 คะแนน ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง) ตัด 3 คะแนน

 

 

ขับรถชนแล้วหนี และตัด 4 คะแนน เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด และกลุ่มความผิดอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกจำนวน 42 ฐานความผิดจะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ เป็นต้น วิธีการตัดคะแนนนั้น จะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง

 

หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156

 

หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ส่วนการคืนคะแนน แบ่งเป็นการคืนคะแนนโดยอัตโนมัติ และการคืนคะแนนเมื่อผ่านการอบรมจากกรมการขนส่งทางบก

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบคะแนนได้ที่ เว็บไซต์ E-Ticket PTM แอปพลิเคชัน ขับดี (KHUB DEE) แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ให้บริการชำระค่าปรับผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งระบบดังกล่าว ไม่ใช่ระบบการติดตามผู้ใช้รถแต่เป็นช่องทางที่ให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบและชำระค่าบริการแบบออนไลน์

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube