fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ศาลสั่งคุมประพฤติเมาขับหกวันกว่า 5 พันคดี

Featured Image
สั่งคุมประพฤติเมาแล้วขับสะสมหกวัน 5,200 คดี เพิ่มจากปี 64 เท่าตัว ย้ำมาตรการเข้มกฎหมายและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด

 

วันนี้ (4 ม.ค. 65) นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติสะสมหกวันของ 7 วันอันตรายปี 2656 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,767 คดี จำแนกเป็นขับรถในขณะเมาสุรา 5,200 คดี คิดเป็นร้อยละ 90.17 ติด EM 10 ราย ขับรถประมาท 11 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.19 ติด EM 1 ราย และขับเสพจำนวน 556 คดี คิดเป็นร้อยละ 9.64 โดยจังหวัดที่มีสถิติเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ ชัยภูมิ 403 คดี บุรีรัมย์ 350 คดี และสกลนคร 278 คดี

เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ สะสม 6 วัน ช่วงเทศกาลปีใหม่พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี 2564 มีจำนวน 2,399 คดี กับปี 2565 มีจำนวน 5,200 คดี เพิ่มขึ้น 2,801 คดี คิดเป็นร้อยละ 53.8 หากเปรียบเทียบสถิติคดีรายวัน (3 ม.ค.) ที่เข้าสู่การคุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2565 มีจำนวน 332 คดี เทียบกับปีที่แล้ว จำนวน 326 คดี พบว่าเพิ่มขึ้น 6 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.8

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมคุมประพฤติเตรียมใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้น โดยมาตรการทางกฎหมายจะประเมินและคัดกรองผู้กระทำผิด และกำหนดมาตรการตามระดับปัญหา โดยการคุมประพฤติให้ผู้กระทำผิดปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ได้แก่ ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ (กำหนด 3 เดือนต่อครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี) ให้ทำงานบริการสังคมซึ่งเป็นการทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทน พักใช้ใบอนุญาตขับรถ เป็นเวลา 6 เดือน ให้เข้าอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและวินัยจราจร ห้ามเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และให้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ในมาตรการแก้ไขฟื้นฟู หากพบว่ามีแนวโน้มการติดสุราสูงจะส่งไปบำบัดการติดสุราที่รพ.ในสังกัดสธ. เป็นเวลา 4 เดือน หากพบว่ามีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำสูงจะส่งไปแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับพฤติกรรม เป็นเวลา 3 วัน โดยใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกับการทำงานบริการสังคมที่สร้างจิตสำนึกและความตระหนักถึงผลกระทบของการขับรถในขณะเมาสุรา เช่น การดูงานห้องดับจิตและตึกอุบัติเหตุ การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุ ผู้พิการ เป็นต้น

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube