“ศรีวราห์”เปิดใจหลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก”เปรมชัย”ยันก้มไหว้เพราะที่บ้านสอนมาแบบนี้ และไม่ได้ทำให้กฎหมายเปลี่ยนแปลง รวยหรือจนเท่าเทียมกันหมด – ขอตำรวจเข้มแข็งทำงานยึดกฎหมาย รักกันให้มากๆ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดที่ทำคดีที่ นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการบริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันล่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี 2561 เปิดบ้านให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์หลังศาลจังหวัดทองผาภูมิมีคำพิพากษาศาลฎีกา สั่งจำคุก 2ปี 14 เดือน โดยไม่รอลงอาญานายเปรมชัย โดยระบุว่า สมัยที่เป็นหัวหน้าคดีชุดทำคดีก็ทำงานไปตามหน้าที่ตามกฎหมาย และมั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดได้ หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องแล้วหน้าที่ของพนักงานสอบสวนก็สิ้นสุดแล้ว ส่วนที่มีข้อครหา กรณีที่มีภาพก้มไหว้ นายเปรมชัย ทำให้สังคมดราม่าว่าเหมือนตำรวจจะช่วยเหลือทางคดีนั้น ยืนยันว่าการก้มกราบของตนเอง เพราะได้รับการสั่งสอนมาแบบนี้ ที่บ้านนับถือพราหมณ์มีการไหว้และรับไหว้เป็นประจำอยู่แล้ว อีกทั้งการที่รับไหว้ไม่ได้เป็นเหตุให้กฎหมายเปลี่ยนแปลง ย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจนทุกคนเท่าเทียมกันหมด เมื่อถูกดำเนินคดีก็มีสิทธิต่อสู้ตามกฎหมาย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่ายอมรับว่า ครั้งแรกที่เห็นบันทึกการจับกุมยังไม่มั่นใจว่าจะเอาผิดได้ รู้สึก 50:50 โดยเฉพาะในข้อกล่าวหาร่วมกันล่าสัตว์ ในสำนวนไม่มีเสือสักตัว มีแต่หนังเสือ กระดูกเสือ ซึ่งเป็นซากสัตว์ มีความผิดฐานครอบครองซากสัตว์ โทษคุก 4ปี ก็ต้องมาพิสูจน์ให้ได้ว่า หนังเสือ เนื้อเสือและกระดูกเสือเป็นเสือตัวเดียวกัน รูกระสุนเข้าได้กับอาวุธปืน ให้ความสำคัญกับพยานหลักฐานทุกชิ้น จนรวบรวมหลักฐานสมบูรณ์และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พร้อมระบุระหว่างการต่อสู้คดีไม่มีการติดต่อมาจากฝ่าย นายเปรมชัย เพราะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับตนเองอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดได้กล่าวเชิญชมพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีรัดกุมนั้นเพราะลูกทีมของตนเองดี ข้อเท็จจริงส่วนไหนที่ไม่มีก็หามาประกอบสำนวนให้ง่ายต่อการพิจารณาของอัยการ ส่วนครั้งที่โดนกระแสโจมตีส่วนตัวรู้สึกสงสารลูกน้องและคนที่ติดตามข่าวที่บ้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
