“สีหศักดิ์” รับหยุดยิง 72 ชม.ยังเปราะบาง-JBC รอรัฐบาลใหม่
“สีหศักดิ์” รับหยุดยิง 72 ชม. ยังเปราะบาง วอนเลี่ยงคำพูด เหตุยั่วยุ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ มุ่งสู่สันติภาพยั่งยืน แจงประชุม JBC ยังไม่เกิด ปมขั้นตอนกฎหมาย–รัฐบาลใหม่
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างไทย กัมพูชา และจีน ณ ริมทะเลสาบฝู่เซียน มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าผลการหารือมุ่งเน้นไปที่การทำให้ข้อตกลงหยุดยิงมีความยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ก่อนจะพิจารณาก้าวต่อไปของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
นายสีหศักดิ์ ยอมรับว่า ระยะเวลาหยุดยิง 72 ชั่วโมงในขณะนี้ยังมีความเปราะบาง จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเหตุการณ์หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจถูกมองว่าเป็นการยั่วยุหรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะจะบั่นทอนบรรยากาศของการหยุดยิง โดยเฉพาะกรณีการปล่อยโดรนในพื้นที่ ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ รวมถึงถ้อยแถลงของผู้นำทางการเมืองที่อาจถูกตีความได้หลายทาง
พร้อมยกตัวอย่างถ้อยแถลงของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ระบุว่าการหยุดยิงไม่ได้หมายความว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายแพ้ ว่าอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้ พร้อมระบุว่าหากย้อนถามว่าใครเป็นฝ่ายขอหยุดยิงก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งซ้ำอีกดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือก้าวข้ามประเด็นดังกล่าว และมุ่งทำให้การหยุดยิงเกิดความยั่งยืนมากที่สุด
สำหรับกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่เขาสัตตะโสม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญที่มีการหารือในกรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) คือการจัดตั้งระบบฮอตไลน์ เพื่อใช้ตรวจสอบข้อมูลและลดความเข้าใจผิดหากเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดน
ส่วนประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามผลักดันให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เพื่อเดินหน้าการปักปันเขตแดน นายสีหศักดิ์ ชี้แจงว่า ยังต้องพิจารณาผลการประชุม GBC ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี อีกทั้งอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ จึงต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายว่าจะมีผลผูกพันต่อรัฐบาลใหม่หรือไม่ ยืนยันว่าไทยไม่ได้ประวิงเวลา แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด
สำหรับความชัดเจนในการปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย นายสีหศักดิ์ ระบุว่า หลักการคือจะมีการปล่อยตัวหลังครบกำหนดหยุดยิง 72 ชั่วโมง โดยย้ำว่าทั้งสองฝ่ายต้องเคารพข้อตกลงและรักษาคำพูดเพราะสถานการณ์ในขณะนี้ยังเปราะบาง และไม่ควรมีการกระทำหรือถ้อยคำใด ๆ ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิด
ทั้งนี้ ช่องทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชายังสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่ นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่า มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดในทุกระดับ ทั้งทางการทูตและทางทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามหากเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นจะได้สามารถสื่อสารกันโดยตรง
ส่วนฉากทัศน์หลังครบกำหนดหยุดยิง 72 ชั่วโมง หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ขั้นต่อไปคือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างเป็นรูปธรรม เช่น
การหลีกเลี่ยงการยั่วยุในพื้นที่ชายแดน และการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนการลงพื้นที่สำรวจหลักเขตแดนของ JBC เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจา
นายสีหศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องยอมรับว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาในช่วงนี้ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง แต่การหยุดยิงถือเป็นโอกาสสำคัญในการนำพาความปลอดภัยและความมั่นคงกลับสู่พื้นที่ชายแดนประชาชนทั้งสองฝ่ายต่างต้องการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งไทยและกัมพูชา และเป็นพื้นฐานสำคัญในการมุ่งสู่สันติภาพที่ยั่งยืนในระยะยาว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





