Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

รวมพลังแผ่นดินฯ ร้องสหรัฐ–มาเลย์ หยุดบีบไทยในวิกฤตชายแดน

กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ” ประกอบด้วย นายพิชิต ไชยมงคล นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ “ทนายนกเขา” ร่วมกันแถลงการณ์จุดยืนครั้งสำคัญต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเกิดเหตุสะเทือนใจ ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาด เป็นรายที่ 7 ภายในเวลาไม่นาน

 

ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ร่วมมือของกัมพูชาในการจัดการพื้นที่ทุ่นระเบิด และยังมีข้อกล่าวหาว่ามีการวางกับระเบิดเพิ่มในเขตที่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย

 

แกนนำกลุ่มระบุว่า ปัญหาไม่ได้หยุดอยู่แค่การรุกล้ำของกัมพูชา แต่ท่าทีของ “สหรัฐอเมริกา” และ “มาเลเซีย” ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ามีการกดดันไทย ทั้งในประเด็นการค้า การทูต และการประเมินสถานการณ์ชายแดน จนทำให้ไทยอยู่ในจุดที่เสียเปรียบในเวทีระหว่างประเทศ ขณะที่เหตุปะทะชายแดนยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะ และชีวิตเจ้าหน้าที่ไทยกลายเป็นเดิมพันของความตึงเครียดครั้งนี้

 

นายพิชิต ไชยมงคล ประกาศจุดยืนอย่างหนักแน่นว่า “ถึงเวลาให้ประชาชนทั้งประเทศลุกขึ้นปกป้องอธิปไตย” โดยเชิญชวนให้คนไทยประดับธงชาติหน้าบ้าน–หน้ารถ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเจ้าของแผ่นดิน และนัดหมายจัดกิจกรรมใหญ่ในวันที่ 22 พฤศจิกายน เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่หน้าสถานทูตมาเลเซีย ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาในช่วงบ่าย เพื่อแสดงพลังเชิงสันติเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประเทศไทย

 

ทนายนกเขา เปิดเผยต่อว่า กัมพูชา–มาเลย์–สหรัฐ” จับมือกดไทย ในการแถลงครั้งนี้ ตนมอง ความขัดแย้งชายแดนว่าแตกต่างจากยุคอดีตโดยสิ้นเชิง เพราะปัจจุบันกัมพูชาใช้อาวุธเล็งเป้าพื้นที่พลเรือน และมีความร่วมมือกับมาเลเซียจนเกิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ

 

เขายังตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐอเมริกามีท่าทีเข้าข้างกัมพูชา แม้ไทยจะมีสนธิสัญญาร่วมกับสหรัฐมากมาย แต่กลับไม่เคยยื่นมือช่วยในยามเกิดวิกฤตชายแดน ทั้งยังใช้มาตรการภาษีมากดดันไทยในขณะเดียวกัน

 

และสหรัฐอเมริกาอ้างสันติภาพ แต่เพิกเฉยต่อการที่กัมพูชาละเมิดปฏิญญาสันติภาพเสียเอง” พร้อมตั้งคำถามว่าต่างชาติมีวาระใดแอบแฝงหรือไม่

 

ด้านนาย จตุพร เตือนคนไทย “อย่าแลกการค้ากับดินแดน”ย้ำว่า สังคมไทยว่าอย่าให้ “ผลประโยชน์ทางการค้า” มาบดบังความสำคัญของอธิปไตย โดยกล่าวว่า “ถ้าวันนี้เรายอมแลกการค้ากับขาทหาร วันข้างหน้าเราจะไม่เหลือแผ่นดินให้สู้” เป็นอีกหนึ่งประโยคที่กระแทกใจผู้ฟังและสะท้อนถึงความกังวลที่สถานการณ์อาจรุนแรงกว่าที่เห็น

 

สุดท้ายแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่การปลุกปั่นความแตกแยก แต่เป็น “สัญญาณจากประชาชน” เพื่อทวงถามความเป็นธรรมให้กับไทยในสถานการณ์ที่ถูกกดดันหลายด้าน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแสดงท่าทีทางการทูตให้ชัดเจน ว่าจะเดินเกมความสัมพันธ์กับกัมพูชา สหรัฐอเมริกา และมาเลเซียอย่างไร ในภาวะที่ชีวิตเจ้าหน้าที่ไทยและความมั่นคงของประเทศกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง

 

22 พฤศจิกายนนี้จึงไม่ใช่แค่วันชุมนุมแต่เป็นวันที่หลายฝ่ายจับตาว่า “พลังประชาชน” จะสะท้อนเสียงของประเทศไทยสู่สายตาโลกได้มากเพียงใด ท่ามกลางวิกฤตชายแดนที่อ่อนไหวที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทบทวนนโยบายต่างประเทศไทยครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube