นายกฯPM 2.5 วาระอาเซียนรบ.เตรียมแผนระยะยาวแล้ว
นายกฯ ฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระอาเซียน ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ด้าน กต.เดินหน้าคุยเพื่อนบ้าน ชี้ รัฐบาลเตรียมแผนรับมือระยะยาวไว้แล้ว ส่วนเฉพาะหน้าให้นั่งรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี ลดควันดำ รับ WFH เป็นแนวทางแก้ปัญหา แต่ขอหารือก่อน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เรื่องฝุ่นไม่ใช่เฉพาะเป็นวาระแห่งชาติ แต่เป็นวาระของอาเซียน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำตามกระบวนการขั้นตอนของต่างประเทศต้องไปคุยขอความร่วมมือจากอาเซียน ซึ่งมีการพูดคุยเรียบร้อยแล้วกับประเทศที่มีการเผา
ขณะที่ในประเทศเราก็มีการเผา ทุกประเทศต้องมีมาตรการที่จะช่วยกันต้องขอความร่วมมือ เพราะสภาพอากาศที่มีลมพัดไปมาต้องลดปริมาณการเผาในแต่ละพื้นที่ เช่นในไทยทุกกระทรวงต้องมีมาตรการ มีการเตรียมการตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ว่า ถ้าหากมีการเผาจะต้องมีการปรับ หรือบังคับใช้กฎหมาย อย่างไร
ขณะที่ด้านอุตสาหกรรมการเผาก็ลดน้อยลงกว่าปีที่แล้วเป็นอย่างมาก ส่วนฝุ่นเป็นเรื่องของการสะสม มันถึงเวลาแล้วไม่ใช่คนใดคนหนึ่งหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลทำคือการแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นให้ทันการณ์ ให้ดีที่สุด ระยะกลาง ระยะยาวก็ทำแล้ว ระยะสั้นก็ทำอยู่
ส่วนการให้เวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) จะต้องมีประกาศจากหน่วยงานราชการหรือไม่ จากเดิมที่ให้มีการพิจารณาเอง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ สามารถคุยกันได้ว่า ที่ไหนที่เวิร์คฟอร์มโฮมแล้วไม่กระทบกับการทำงานมากเกินไป จะช่วยลดเรื่องการเดินทางได้เยอะ
ส่วนหน่วยงานราชการที่ไม่ต้องบริการประชาชน และสามารถทำงานผ่านออนไลน์ได้ รัฐบาลควรจะประกาศให้เวิร์คฟอร์มโฮมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอไปคุยรายละเอียดก่อน แต่จากที่คุยกันเบื้องต้น คิดว่าเป็นไปได้ เพราะช่วงนี้ฝุ่นเยอะจริงๆ
สำหรับภาคเอกชนจะมีมาตรการจูงใจเพื่อเวิร์คฟอร์มโฮมอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลายที่ก็ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลก็มีมาตรการเร่งด่วน เช่น การขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ใช้งบประมาณ 140 ล้านบาท ซึ่งเอกชนหลายที่ก็ได้ใช้ด้วยถือเป็นภาพรวมในการแก้ปัญหา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





