เริ่มภารกิจใช้หุ่นยนต์รื้อ สน.สามเสน มูลค่า 40 ล้าน
เข้าสู่วันที่ 11 แล้ว สําหรับเหตุถนนทรุดตัวจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลและสถานีตํารวจนครบาลสามเสน
โดยเมื่อวานนี้คณะทํางานประกอบด้วยผู้อำนวยการเขตดุสิต ผู้แทนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนจากสำนักการโยธา กทม. ผู้แทนจาก รฟม. ผู้แทนจากผู้รับจ้างก่อสร้าง และผู้แทนจากสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความเห็นในแนวทางเดียวกันว่าเพื่อลดความเสี่ยงและทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น
ระหว่างดำเนินงานแก้ไขพื้นที่เกิดเหตุ จึงควรดำเนินการรื้อถอนอาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสนโดยเร่งด่วน เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ทรายที่ถมไปแล้วเริ่มมีรอยร้าวและมีดินสไลด์ ทำให้เสาต้นที่สามของ สน.สามเสน ขาดเพิ่มเติมซึ่งส่งผลให้โครงสร้างฃอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยต่อการใช้งานในอนาคต โดยทาง รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาจะเป็นผู้ดำเนินการในการรื้อถอน
โดยเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้หุ่นยนต์รถแบ็คโฮหัวหนีบคอนกรีตเจาะโครงสร้างอาคารควบคุมระยะไกล ระดมเจาะผนังคอนกรีตที่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของอาคาร สน.สามเสน โดยเจาะรอบละประมาณ 30 นาที ซึ่งหลังทำการเจาะ 2 รอบ เจ้าหน้าที่ได้พักการรื้อถอนด้วยหุ่นยนต์และนำทรายเข้ามาถมลงไปในหลุมด้วยรถแบ็กโฮ
สำหรับแผนการปฎิบัติงานเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะเริ่มทยอยรื้อซากตัวอาคาร เพื่อไม่ให้กระทบต่อโครงสร้าง โดยจะทยอยรื้อหลังคา พื้นและฐานของเสา ซึ่งการรื้อผนังคอนกรีตและหลังคา จะใช้หุ่นยนต์รถแบ็คโฮหัวหนีบคอนกรีตเจาะโครงสร้างอาคารควบคุมระยะไกลเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติงาน
ส่วนพื้นอาคารจะใช้วิธีตัดเป็นแผ่นจนเหลือเพียงเค้าโครง ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทำไปบ้างแล้วบางจุด สำหรับด้านล่างอาคารจะกันไม่ให้เกิดดินสไลด์ ซึ่งตลอดการทำงาน เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องวัดการเคลื่อนไหวของตัวอาคารเฝ้าระวังการสไลด์ของดินควบคู่ไปด้วย
ขณะที่ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นรถกระเช้าเครนประมาณ 4-5 คน ไปดําเนินการรื้อถอนหลังคาของอาคาร สน.สามเสน ขณะที่ด้านล่างก็ยังคงมีการถมทรายอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งซ่อมแซมหลุมให้กลับมามีสภาพเดิม
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาสามารถถมทรายเพิ่มขึ้น 800 ลูกบาศก์เมตร ส่วนเช้าวันนี้จะมีการถมทรายเพิ่มอีก 1,200 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้มีทรายในหลุมทั้งหมดประมาณ 5,000 ลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ จะมีการฉีดซีเมนต์เกร้าท์หรือปูนสำเร็จรูปพิเศษที่ไม่หดตัวรอบอุโมงค์เพื่อเสริมความแข็งแรงของอุโมงค์ ซึ่งจะทำให้อุโมงค์มีความแข็งแรงและทำงานได้ง่ายหากจะกลับมาดำเนินการซ่อมอีกครั้ง
สำหรับตัวอาคารขณะนี้พบว่าไม่มีรอยแตกร้าวเพิ่มเติม มีเพียงเสาเข็มที่มีการทรุดตัว แต่ตัวอาคารโดยรอบยังมั่นคงดีอยู่ ขณะที่อาคารของวชิรพยาบาลยังไม่พบว่ามีการขยับตัว ถือว่าปลอดภัยดี สำหรับช่วงบ่ายนี้จะดำเนินการรื้อถอนอาคารต่อ อย่างไรก็ตาม คาดว่าวันนี้น่าจะมีฝนตกลงมาแต่ก็ไม่ได้มีความกังวลใดๆ…
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





