Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ดีลลับ! นายกฯอิ๊งค์ คุย”ทรัมป์”ดันGDP

ความกังวลเรื่อง TRADE WAR ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่การรับมือ ของประเทศไทยกับกำแพงภาษีนั้น ล่าสุด นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ได้กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” โดยระบุว่า ได้มีการตั้งทีมขึ้นมาดูแลอย่างจริงจัง และได้หารือกับภาคเอกชน ที่มีการนำเข้าสินค้านั้นๆ รวมถึงได้มีการพูดคุยกับผู้นำอาเซียน เช่น มาเลเซีย โดยไทยได้มีการประสานกับ สหรัฐเพื่อให้เกิดความตกลง จะถือว่าเป็น “ดีลลับ” ต้องทำให้เกิดความแม่นยำในการพูดคุยต่อรอง ขอให้ทุกคนสบายใจ การเจรจาแบบไม่เป็นทางการมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีความคืบหน้า

 

แต่อย่างไรก็ตามผลพวงจากสงครามการค้า “นักวิเคราะห์” มองว่า ก็ทำให้หลายประเทศมีการปรับลดจีดีพี เพื่อสะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นจากการตั้งกำแพงภาษีสหรัฐฯ โดย WORLD BANK ได้ปรับคาดการณ์ จีดีพีปี 2568 ในแถบภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ลดลงมาอยู่ที่ 4% จากเดิมคาดการณ์ 5% ขณะที่เศรษฐกิจไทย ทาง WORLD BANK คาดว่าจะขยายตัวแค่ 1.6% จากเดิมคาด 2.9% ซึ่งต่ำกว่า IMF ให้ไว้ที่ 1.8% ซึ่งหากเปรียบเทียบแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจไทยนั้น ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส มองว่า แทบจะขยายตัวต่ำสุดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก

 

เข่นเดียวกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ก็ได้มีการปรับลดจีดีพีปีนี้โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.1% ช่วงคาดการณ์ที่ 1.6 – 2.6% ส่วนคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ก็ได้มีการส่งสัญญาณ ถึงเศรษฐกิจไทยผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.75% หลังสถานการณ์ นโยบายการค้าสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลักจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทาง เศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลก โดยนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า ระบุว่า การปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวของกนง. มองเป็นการส่งสัญญาณถึงเศรษฐกิจไทยที่ยังมึความเสี่ยงเผชิญ แรงกดดันจากสงครามทางการค้าได้ต่อ

 

นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทจัดอันดับเครดิต มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody’s) ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยลงสู่เชิงลบ (Negative) จากเดิมที่มีเสถียรภาพ (Stable) สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการคลังของประเทศไทยจะอ่อนแอลง ซึ่งเรื่องนี้ “ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล” กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) อดีตรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ถอดรหัส Negative Outlook ของ Moody’s ไว้อย่างน่าสนใจว่า อาจนำไปสู่การลด Rating ลงได้ในอนาคต เป็นการเตือนประเทศไทย และกระตุ้นให้อีก 2 เจ้าที่เหลือ คือ S&P และ Fitch Ratings กลับมาดูข้อมูลและทบทวนจะปรับเปลี่ยนมุมมองของไทยตามหรือไม่

 

ทั้งนี้ การเตือนของ Moody’s ถึงการลด Rating ในอนาคต ถ้าหาก 1. เศรษฐกิจไทยอ่อนแอลงไปกว่านี้ ศักยภาพในการเติบโตลดต่ำไปกว่านี้ จากการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างในด้านต่างๆ รวมทั้งจาก ความปั่นป่วนในระบบเศรษฐกิจโลกจากนโยบายสหรัฐ

 

หรือ 2. ภาระหนี้ของภาครัฐไทยยังเพิ่มต่อเนื่องในช่วงต่อไป ทั้งจากปัญหาภายนอกและภายในที่จะเข้า มากระทบทำให้ไทยโตไม่ได้ หรือจากความตึงเครียดขัดแย้งทางการเมืองที่กระทบต่อความสามารถ ในการดำเนินนโยบายของไทย

 

ทั้งหมดนี้ “ดร.กอบศักดิ์” ระบุว่า เป็นการเตือน และแจ้งว่า Moody’s กังวลใจมองอะไรอยู่ และเขา อยากเห็นอะไร หน้าที่ของเราก็คือ เร่งแก้ไข ปรับปรุงตนเอง
ซึ่งคงต้องทำ 3 เรื่อง

1.ไม่ทำในสิ่งที่เขากังวลใจ

2. เตรียมการให้เศรษฐกิจไทยผ่านมรสุมจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไปได้ พยายามลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

3. มุ่งสร้างอนาคตที่แท้จริง เพราะสิ่งที่ Moody’s อยากเห็นจริงๆ คือ ศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 3-4% เป็นอย่างน้อย ซึ่งหมายความว่า เราต้องเร่งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ สร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่จะสร้างรายได้ที่แท้จริง เพิ่มศักยภาพการวิจัยของไทย แก้ไขกฏหมายที่ล้าสมัยที่เป็น โซ่ถ่วงประเทศ และที่สำคัญสุดคือ แก้ไขเรื่องการพัฒนาคนของไทย

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างใกล้ชิด รวมถึงมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะยิ่งทำให้การเติบโตมากขึ้นเท่าไร ย่อมส่งผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลนั่นเอง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube