รัฐบาลอิ๊งค์ คุย ทรัมป์ เอกชนหวังดีลฉลุย
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับสถานการณ์การค้า เพราะล่าสุด ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เปิดเผยว่า ลังเลที่จะขึ้นภาษีจีนเพิ่ม เนื่องจากกังวลว่าการค้าระหว่างสองประเทศอาจหยุดชะงัก
ส่วนฝั่งไทยคณะเจรจาการค้าของไทย ได้ออกเดินทางไปสหรัฐฯแล้ว โดยได้คิวเจรจากับทีมการค้าสหรัฐฯวันที่ 23 เม.ย. ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการแถลงข่าวผลกระทบจากสงครามการค้าต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเบื้องต้นแบงก์ชาติ คาดว่า GDP ปี 2568 จะต่ำกว่า 2.5% ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ KGI ซึ่งมอง GDP ปีนี้อยู่ในช่วง 2-2.3%
เช่นเดียวกับฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ที่ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แบงก์ชาติได้มองมาตรการภาษีของสหรัฐ รวมถึงการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลัก จะส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลกอย่างมีนัย ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อ ทำให้มีผลกระทบส่งผ่านมายังเศรษฐกิจไทย กดดัน GDP ปี 68 หลุดเป้าหมายเดิมที่ 2.5%
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นปัจจัยที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้คงหนีไม่พ้นนโยบายการเงิน ซึ่งมีโอกาสสูงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง เหลือ 1.75% ตาม TREND การลดดอกเบี้ยของทั่วโลก และคาดว่า TARGET SET INDEX จะขยับขึ้นมาได้ราว 50-60 จุด
ขณะที่ “นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์” ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ภาคเอกชนฝากความหวังกับคณะเจรจาการค้าของไทยอย่างเต็มที เพราะถือเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการพูดคุยกับสหรัฐฯ โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ทั้งนี้ มองว่า การทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” จากนี้ไปจะมีความยากและท้าทายมากขึ้น เนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้อยู่ในระดับต่ำ
“นายสุรพงษ์” กล่าวอีกว่า ไม่เพียงแต่การลงทุนเท่านั้น ที่รัฐบาลจะต้องเร่งขับเคลื่อน แต่ยังต้องสร้างอำนาจซื้อให้กับประชาชนอีกด้วย
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าผลออกมาในเชิงบวก ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจและคะแนนนิยมของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews