แจกหมื่นเฟส 2 รอรับเงิน 27 ม.ค.- เฟส 3 ก็ชัดเจนขึ้น
“พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง ให้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับกำหนดวันแจกเงินหมื่น เฟส 2 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ประมาณ 4 ล้านคน
โดยจะโอนเงินในวันที่ 27 ม.ค.นี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม ที่รัฐบาลเซ็ตไทม์ไลน์เอาไว้ในตอนแรก ว่าจะแจกในช่วง “ตรุษจีน” ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงต่อเนื่องสำหรับโครงการนี้ นับตั้งแต่แจกเฟสแรกช่วงปลายเดือนกันยายน และสามารถดันเฟส 2 ได้สำเร็จ
โดยผู้สูงอายุที่กำลังลุ้นว่าจะได้รับเงินหรือไม่ ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ล่วงหน้าได้ แค่เปิดแอพพ์ทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้ท่านกดปุ่มยืนยันข้อมูล กรอกเบอร์โทรศัพท์ และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
จากนั้น กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ กดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ระบบก็จะแสดงผลว่า สถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของท่านอยู่ในขั้นตอนใด หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ,หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือท่านไม่ได้รับสิทธิ, และหากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือท่านได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท. ใครที่ลุ้นอยู่ก็รอเช็คสิทธิ์กันได้เลย
ส่วนประชาชนทั่วไป ที่กำลังรอลุ้นว่า แจกหมื่น เฟส 3 จะมีหรือไม่นั้น ความชัดเจน จากปาก นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” รวมถึง ขุนคลัง”พิชัย” และรัฐมนตรี “ประเสริฐ” ผู้ดูแลการทำระบบแจกเงินดิจิทัล ก็มีความคืบหน้า สำหรับเฟส 3 ว่าจะแจกได้ ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน” ตอนนี้รอขั้นตอนการทำระบบ
และทดสอบระบบ ว่าจะเสร็จสมบูรณ์แบบ 100% ในช่วงเดือนมีนาคม เฟส 3 ที่รอเงินหมื่นอยู่ประมาณ 30 ล้านคน ก็จะได้รับเงินหมื่นกันแบบถ้วนหน้าเช่นกัน
โดย”นายกฯแพทองธาร” ชี้แจงถึงเหตุผล ที่ไม่จ่ายเป็นเงินสด ในเฟส 3 แต่จะแจกเป็นดิจิทัลว่า การจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเลต เพราะเราต้องใช้เอไอ เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือเชื่อมรัฐบาลกับประชาชนในการเดินหน้าเศรษฐกิจ
ซึ่งเงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้ที่จะรับเงินดิจิทัล ในเฟส 3 นั้น ต้องลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ และยืนยันข้อมูลเรียบร้อย, ต้องมีสัญชาติไทย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน, ต้อง อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 กันยายน 2567), ต้องมีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี สำหรับปีภาษี 2566, มีเงินฝากธนาคารไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และต้องไม่เป็นผู้ต้องขัง หรือผู้ที่ถูกระงับสิทธิในโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
ส่วนวิธีการตรวจสอบรับสิทธิ์ก็ทำเช่นเดียวกับเฟส 2 แต่ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งต่อไป แต่ที่ชัดเจนที่สุดในเวลานี้ คือรัฐบาล “แพทองธาร” สานต่อนโยบาย ที่นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” พยายามผลักดันมาอย่างหนัก ทำจนสำเร็จ เป็นผลงานที่จับต้องได้แล้ว 2 เฟส ถ้า เฟส 3 โอนเงินเมื่อไหร่ ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในการแจกเงินหมื่น ตามที่ได้หาเสียงไว้ แม้จะไม่ตรงปกบ้าง บางส่วน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถือว่าทำได้จริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews