fbpx
Home
|
Video

“ลุง”ไม่อยากเป็น“พระเอก”

ดักคอออกตัวเตือนเลยว่า ใครที่กำลังแบ่งแยกคนไทยเป็น 2ฝ่าย ขอให้เลิกทำ เพราะ“ลุง”ไม่ใช่“ศัตรู”ของใคร จึงไม่ต้องการแบ่งแยกคนไทยออกเป็น 2ฝ่าย ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เพราะงานนี้ไม่มี“พระเอก” เพราะถ้ามี“พระเอก”จะมี“ผู้ร้าย”ทันที

ดังนั้น“พระเอก”ก็คือคนไทยทั้งประเทศ ในการแก้ไขปัญหาโควิดฯระลอกสอง รวมทั้ง“สื่อ”ด้วยขอให้ช่วยกันด้วยพูดในสิ่งที่สร้างสรรค์มากกว่า เรื่องของความขัดแย้ง ถ้ามัวแต่“เปิดรูขยายความขัดแย้ง”เรื่อยๆก็ไม่มีวันจบ ทุกเรื่องทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะทำให้คนทุกคนเห็นชอบไปด้วยกันอยู่แล้ว แต่เราต้องเอาสิ่งที่ไม่เข้าใจมาอธิบายว่า อะไรคือปัญหา อะไรคือสิ่งที่ต้องร่วมมือ และช่วยกัน รัฐบาลจำเป็นต้องฟังในทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายเห็นด้วย และฝ่ายเห็นต่าง

เรียกว่าเป็นอีกครั้งที่“ลุง”ใช้จังหวะที่นักข่าวกำลังถามถึงเรื่อง“โควิดติดมะตูม” ที่กลายเป็น“ซุปเปอร์สเปรดเดอร์”ไป 2วง “ปาร์ตี้” ของเหล่าบรรดา“ศิลปินคนดังเซเลป” ที่บางรายมีการปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ โดยให้“หมอหนู”สั่งการให้ฝ่ายเกี่ยวข้อง ไปดำเนินการตามกฎหมาย กับผู้ที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม โดย“ลุง”ถือโอกาสส่งสัญญาณ“พระเอก – ผู้ร้าย” และการ“แบ่งแยกคนไทย” ถึงใครก็ตามที่กำลังจ้องเล่นงาน ในจังหวะที่“การเมือง”เริ่มขยับแรงในช่วงซา“โควิด” โดยเฉพาะการ“จั่วหัว”ก่อน“ศึกซักฟอก” อภิปรายไม่ไว้วางใจ“ลุง” และ 9 รัฐมนตรี กลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่“ฝ่ายค้าน”เล่นคำใส่ข้อหาหนัก ๆ ใส่ลุง ที่ใครได้อ่านก็บอกว่าร้ายแรง จน“วิรัตน์”ประธานวิปรัฐบาล ต้องยื่นขอให้“ประธานชวน”แก้คำในญัตติ

ที่อย่าลืมว่านอกจากเคส“โควิดติดมะตูม” ที่กำลังขยายบานเป็น“ซุปเปอร์สเปรดเดอร์”จาก 2วง 2โรงแรมดัง ที่กำลังถูกจับตาจากสังคม ไม่แต่เฉพาะ“จำนวนผู้ติดเชื้อ” ที่พุ่งมาเป็น 29ราย และมีผู้สุ่มเสี่ยงนับร้อยคนแล้ว ยังมีประเด็นการ“ตรวจสอบย้อนกลับ”ไปที่“การทำผิดกฎหมาย”หรือความหลวม ในการบังคับใช้กฎหมายของ“กลไกรัฐ” ทั้งประเด็นการเปิดบริการเกินเวลา ทั้งการปล่อยให้มีการจัดปาร์ตี้ และรวมถึงการปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ จนเกิดผลกระทบ ที่ทำให้มีการ“กรอภาพ”ย้อนกลับไปในภาคแรก กรณี“สนามมวย”ที่อยู่ในการดูแลของกองทัพ และย้อนภาพกลับไปถึง“จุดโหว่รูรั่ว”ที่ทำให้เกิดการระบาดในกรณี “บ่อนการพนัน” และ“ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน” ที่ทำให้สมุทรสาครยังคงเป็นเขตแดงเข้มต่อไป แม้วันนี้ ศบค. จะผ่อนปรนเขตโซนสีใน 5จังหวัด และอีกหลาย ๆ พื้นที่แล้ว โดยในเคส“โควิดติดมะตูม”ที่ยังไม่จบนั้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบ  ทำให้มี“เอฟเฟ็กต์” ต่อ“จังหวะ”การกลับมาเปิดธุรกิจร้านอาหาร หรือเปิดเทอมในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ. ที่จะถึงนี้ ในโซนกรุงเทพฯเกิดอาการ“ชะงัก”ไม่แน่ใจของ“ผู้ปกครอง”และผู้เกี่ยวข้อง

ที่ทั้งหมดทั้งมวล แน่นอนว่าใน“ปลายทาง”ของปัญหา การจัดการ“หน้างาน”ของบ้านเมือง ใน“ยุคโควิดภาค2” ไม่ว่าจะเรื่องใด แม้กระทั่งผลกระทบ“สุขภาพ” หรือ“เศรษฐกิจปากท้อง” “ลุง”ในฐานะ“ผู้นำ”แม้จะไม่อยากที่จะรับบท“พระเอก”ที่มักตายตอนจบ แต่ก็ต้องรับผิดชอบวันยังค่ำดังคลิปภาพการปิดตัวของอุตสาหกรรม จิวเวลรี่ ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูเมื่อวานซืน(27ม.ค.) ที่มีการตกงานทันที่ 2,500 คน ที่มี“คนงาน”ที่กำลังตกงาน บางคนตะโกนต่อว่า โทษว่าเป็นความผิดของ“ลุง” ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ จนพวกเขาตกงาน ที่ไม่แปลกว่าวันนี้“ลุง”จะขอ“บ่นดัง”แบบตีกันไว้บ้าง ว่าเหล่าบรรดาข้อกล่าวหาแรง ๆ ที่ฝ่ายค้าน“จั่วหัว” ทั้งเรื่องประสิทธิภาพของนายกฯ ที่ทำให้เกิดการแตกแยกนั้น ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น เพราะกำลังเป็นการยุยงขยายความขัดแย้ง ทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมืองยิ่งขึ้น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube