fbpx
Home
|
ข่าว

ผักชีทหาร-แก้ม.112

ผักชีทหาร-แก้ม.112 ม็อบเด็กถาม “ทหารมีไว้ทำไม”

ทันทีที่กลับมาจากยุโรปก็มีประเด็นดราม่าให้วิจารณ์กันขรมทั้งเมืองทันที กับไอเดียกระฉูดตอบคำถามที่เคยถูกม็อบเด็กถาม “ทหารมีไว้ทำไม” แบบที่นักข่าวก็แซว”นายกฯลุงตู่”คิดอะไรไม่ออกบอกทหาร จากการแก้ปัญหาที่ผ่านมาไม่ว่าจะน้ำท่วมหรือโควิด จนมาถึงล่าสุดเรื่อง“ผักชีแพง” “ลุงตู่”นั่งหัวโต๊ะครม. เลยผุดไอเดียกลางวง สั่งแก้ปัญหา “ผักชีแพง”ด้วยการให้ ทหารใช้ที่ดินในหน่วย ปลูกผักชีช่วยประชาชน จนถูกโซเชียลไปแซวว่าที่ผักชีขาดตลาดและแพงเพราะถูกนำไปใช้เยอะในยุคนี้ บ้างก็แซวทหารปลูกผักชีโรยหน้าล้อกับสำนวนไทย จน “โฆษกรัฐ” “ธนกร”ที่เพิ่งกักตัว ต้องออกมาพูดแทนนายกฯวันนี้(5พ.ย.) ว่า กระแสดราม่าเรื่องผักชี เป็นการตัดตอนคำพูด โดยไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของนายกฯ ที่มีเจตนาดี ตั้งใจช่วยเหลือประชาชน จึงสั่งให้ทุกส่วนราชการ ใช้ทรัพยากรที่มีช่วยเหลือประชาชน ซึ่งปกติพี้นที่ทหารที่ว่าง ก็จะมีการนำมาใช้ประโยชน์ ในการ ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว รวมถึงประเด็นโควิดก็ใช้พื้นที่ทหาร ตั้ง โรงพยาบาลสนาม เชื่อว่าคนไทยเข้าใจ เมื่อประชาชนเดือดร้อนนายกฯ พยายามแก้ไขให้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

เรียกว่ามีความพยายามอธิบายว่าเพราะ”นายกฯ”ลงรายละเอียดทุกปัญหาประชาชนและคิดเร็วทำงานไวจึงสั่งการแก้ปัญหาทันที กระนั้นในอีกมุมหนึ่งก็มีการติงจากหลายฝ่าย ว่า ปัญหาผักชีแพงช่วงนี้ เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติของฤดูฝน ที่จะปลูกผักชีมีผลผลิตได้น้อย ทำให้ขาดตลาดราคาแพง ที่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวก็จะปลูกได้ตามปกติไม่จำเป็นที่จะต้องส่งเสริมหรือจัดที่ของทหาร ให้ปลูกผักชี เพราะถ้าไปปลูกก็จะทำให้ผักชีล้นตลาด เมื่อถึงเวลาราคาก็จะตกลงไปจากปกติ ซึ่งรัฐบาลก็จะถูกด่าอีก

กระนั้นนอกจากเรื่อง “การบ้าน”ที่ถูกมองใน “ข้ออ่อน”การบริหารจัดการ คล้ายที่ผ่านมา แบบที่ยังติดคาภาพหลอนการแก้โจทย์วิกฤติ “โควิด-เศรษฐกิจ”ที่ยังลุ้นจะออกหัวหรือก้อยใน 2 สัปดาห์นี้ กับการตัดสินใจเสี่ยง “เปิดประเทศ”1พ.ย.แบบที่เริ่มมีปมนักเรียนติดในโรงเรียนต้องกักตัวตรวจกันวันนี้ให้เสียวสันหลัง  โดย ในด้าน “การเมือง”ที่กำลังเริ่มโหมดเปิดประชุมสภาฯเองก็วุ่นวายใช่ย่อย ทำให้เมื่อวาน(4พ.ย.)มีร่องรอยการจัดการของ”นายกฯลุงตู่” ไม่แต่ เรื่องการหา “ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่”แทน “วิรัช รัตนเศรษฐ”ที่ 2ป.ได้คุยกันและมีการกำชับเรื่องการประชุมสภาฯสมัยประชุมนี้ที่มีกฎหมายสำคัญเข้าสู่การพิจารณาลงมติที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัตเหตุการเมืองกับรัฐบาลได้

โดยยังมี ประเด็นที่ “ศูนย์อำนาจ3ป” ยึดเป็น “จุดยืน” มาตลอดเรื่องการปกป้องสถาบันฯ กับ ปมการจุดพลุปรับแก้ไข ม.112 และ ม.116 ของพรรคฝ่ายค้านเพื่อไทยโดย “ชัยเกษม”ประธานยุทธศาสตร์ ที่ชิงจังหวะหลังเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง”พิณทองทา  จนเรตติ่งเพื่อไทยพุ่งแซงก้าวไกล พลังประชารัฐ รับลูกจาก “ม็อบเด็ก”เมื่อวันที่ 31ต.ค.ที่จะนำเข้าสู่กลไกฝ่ายนิติบัญญัติ  โดยประเด็น ม.112 เข้ามาสู่กระแสจนเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองช่วงต้นสัปดาห์ เบี่ยงกลบปมความขัดแย้งในพลังประชารัฐจาก “ศึกนายพล-ผู้กอง”ที่กำลังขยายวงไปสู่ปัญหาเสถียรภาพรัฐบาล การเตรียมการเลือกตั้งสนามเล็กเลือกตั้งท้องถิ่นรวมถึง “ผู้ว่ากทม.” และปัญหาในสภาฯที่สะท้อนผ่านภาพ ความวุ่นวายในสภารวมถึงเหตุ“สภาล่ม”เมื่อวานซืน

ที่แม้ปม ม.112 นี้ “ลุงโทนี่” “ทักษิณ”จะรีบออกมาอธิบายอีกวัน ว่าไม่ใช่แก้ไข แบบไปทำลายเรื่องการปกป้องสถาบันฯแต่เป็นการแก้เพื่อใช้ชัดเจนในการใช้ ไม่ให้ถูกนำไปเป็น “อาวุธในทางการเมือง”ที่อย่าลืมว่ามีคดีดังกล่าวอยู่ในสารบบกระบวนการยุติธรรมนับพันคดี  แต่กระแส จาก“กลุ่มอนุรักษ์นิยม”ก็ออกมาแนว เหมารวมแล้วว่า “ไม่เห็นด้วย”และพร้อมขัดขวางแบบที่เคยมีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ของฝ่ายเห็นด้วย กับ ไม่เห็นด้วย กันมาตั้งแต่ปี 2550 หรือ 14 ปีที่แล้ว  จนถูกมองว่าเป็น “ของร้อน”ที่ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าแตะและถือเป็นบทบาทหน้าทีของ “รัฐบาล3ป.”ที่จะปกป้องกฎหมายนี้ ในขณะที่ หลายพรรคการเมืองรีบชิ่งโดดหนีเว้น “พรรคก้าวไกล”ที่เคลื่อนปมนี้มาแต่ต้นตั้งแต่ยุคยังเป็น “อนาคตใหม่”ที่ต่อเชื่อมบทบาทบาง “ตัวละคร”มาจาก “คณะนิติราษฎร์”สมัย “อ.วรเจตน์”อย่าง “อ.ปิยะบุตร” โดย เมื่อวาน(5พ.ย.)มีรายงานว่า “นายกฯลุงตู่”ประกาศจุดยืนชัด ยืนยัน กลาง ครม.จะไม่ร่วม ไม่แก้ ไม่แตะต้อง ม.112 ไม่ว่าจะในนามนายกฯ ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ยกเว้น แต่ร่างรัฐธรรมนูญที่ภาคประชาชนเสนอมา

ที่ทั้งหมดน่าสนใจติดตามว่า ทุกปมความขัดแย้งแฝงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะจาก “ศึกใน”ความขัดแย้งระหว่าง “นายพล-ผู้กอง”และ กลุ่มก๊วน พปชร. และ “ศึกนอก”ในดหมดความมั่นคง ที่วนลูปกลับมาอีกครั้งกับประเด็น ม.112 รวมถึงปัญหา “การบ้าน”เรื่อง โควิด-เศรษฐกิจ ที่เคยถูกประเมินการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤติแบบ “ซิงเกิ้ลคอมมานด์”ของ”นายกฯลุงตู่”ที่ผ่านมา ในศึกซักฟอกครั้งก่อนว่าผลงานดูเหมือน“หน้าตาดี”แต่ “ล้มเหลว”เกิดความเสียหายต่อชีวิตสุขภาพผู้คน ที่ทุกเรื่องดังว่า กำลังถูกมัดรวมมาที่ “จุดบรรจบ”ที่ “รัฐสภา”ในสมัยประชุมนี้.

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube