น่าสนใจยิ่งกับชะตากรรม “บิ๊กโจ๊ก” หลังประกันตัวออกมาสู้คดีว่าหมากต่อไปคืออาจถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ทำให้ถูกจับตาว่า”บิ๊กโจ๊ก”อาจถอดใจจากข้าราชการแล้วเบนเข็มเล่นการเมืองในสนามสว. หรือไม่ ซึ่งล่าสุด “บิ๊กโจ๊ก” ตอบคำถามสื่อ กรณีอาจจะมีการกดดัน นายกฯ สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ว่า ทุกวันนี้บิ๊กตำรวจมีคดีกันหมดทุกคน และตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ย้อนไปเจาะไทม์ไลน์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ก่อนจะเละเป็น “โจ๊ก”
วันที่ 25 ก.ย. 2566 มีเหตุการณ์ บุกค้นบ้านของ “บิ๊กโจ๊ก” ในวันที่เป็น รอง ผบ.ตร. และถือว่าเกิดขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนที่นายก เศรษฐา จะร่วมประชุมเคาะเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ในอีก2วันข้างหน้า ช่วงสายๆวันเดียวกัน “บิ๊กโจ๊ก” เดินทางเข้าสโมสรตำรวจ พร้อมให้สัมภาษณ์ชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น “มันเป็นการเมืองภายในตำรวจ”…มันเป็นความพยายามดิสเครดิต ให้ผมเสียชื่อ เรื่องอย่างนี้ ผมเจอมาเยอะแล้ว”
ต่อมา วันที่ 27 ก.ย. 2566 ไม่พลิกโผ ที่ประชุม ก.ตร. เลือก “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เจ้าของฉายามือปราบสายธรรมะ ผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่คนที่ 14 ของรั้วปทุมวัน ต่อมา ตัวละครสำคัญอย่าง” บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางก็ออกมาให้ข้อมูล ที่เชื่อมโยงไปยังนายตำรวจใหญ่ ต่อมา15 มี.ค.2567 “บิ๊กเต่า” ให้สัมภาษณ์ไม่กังวล “บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องหมิ่นประมาท ยันดำเนินการด้วยพยานหลักฐาน
20 มี.ค.67 นายกฯเด้งคู่ “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” เด้งเข้ากรุ เคลียร์ใจจบปมร้าวเว็บพนัน โดยมอบหมายให้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รักษาการแทน ต่อมา21 มี.ค.2567 “ต่อ-โจ๊ก” เข้ารายงานตัวที่สำนักนายกรัฐมนตรี 26 มี.ค.2567 “ทนายตั้ม” อีก1 น้องเลิฟ “บิ๊กโจ๊ก” ออกมาแถลงเส้นทางเงินจากเว็บพนันเชื่อมโยงนายตำรวจระดับสูง และมีการเชื่อมโยงไปถึงบิ๊กต่อด้วย พร้อมระบุชัดว่าที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลไม่ได้เป็นการดิสเครดิต เพราะไม่มีปัญหาส่วนตัวกัน
ต่อมา 28 มี.ค.2567 “ทนายตั้ม” ส่งมอบหลักฐาน ให้กับ” บิ๊กเต่า” พร้อมระบุว่า” เส้นเงินจริงๆ ไม่ไปถึงตัว ผบ.ตร. รับไม่กังวลถ้าทีมทนายบิ๊กต่อจะฟ้องเรื่องให้ข้อมูลไม่จริง แต่ขอให้ชี้แจงว่าไม่จริงตรงไหนบ้าง” วันเดียวกัน นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธาน กมธ.ตำรวจฯ เผยว่า ถ้าทนายตั้มจะยื่นเอกสารให้ก็พร้อมรับ หากสังคมมีข้อสงสัยก็พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง
4 มี.ค2567 ป.ป.ช. รับพิจารณาคดี “บิ๊กโจ๊ก” ผิดร้ายแรง เรียกคืนสำนวนคดีบัญชีม้า กลับมาพิจารณาร่วมด้วย ยืนยันไม่ถ่วงคดีเอื้อคนกันเอง ต่อมา 17 มี.ค.2567 พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” เป็นครั้งแรก 22 มี.ค. 67พนักงานสอบสวน นำหมายเรียกครั้งที่ 2 คดีสมคบร่วมกันฟอกเงินไปมอบให้ “บิ๊กโจ๊ก” ที่บ้านพัก แต่ไร้เงา ไม่มีคนรับหมาย เจ้าตัวลางานไปต่างจังหวัดและอังกฤษ ต่อมา 1 เมษายน 2567 ออกมาหมายเรียกครั้งที่ 3
และแล้ววันสำคัญก็มาถึง 2 เม.ย. 2567 ศาลอาญาพิจารณาคำร้องพร้อมไต่ส่วนเเล้วอนุญาตให้ออกหมายจับ “บิ๊กโจ๊ก”โดยศาลให้เหตุผลว่า1. คดีมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นความผิด2. ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงหมายเรียกของพนักงานสอบสวน 3. คดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน “บิ๊กโจ๊ก”ได้ประกันตัวข้อหาฟอกเงิน 1 แสนบาท หลังเข้ามอบตัวตามหมายจับ เจ้าตัวไม่ตอบรายละเอียดคดี ยืนยันเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว
จากนั้นวันที่ 3 เม.ย.67 ทนายตั้ม ไปยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบบิ๊กตำรวจ และช่วงบ่ายไปยื่นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการทุจริตเรื่องรับส่วยไปยื่นให้กับนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาศึกสีกากีระดับนายพลครั้งประวัติศาสตร์ ว่าจะจบลงอย่างไร สุดท้ายแล้วเล่นจริง เจ็บจริง หรือแค่มวยล้มต้มคนดู เหมือนที่ผ่านๆมาหรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
