น้ำผึ้งหยดเดียวลามทั่วทั้งแผ่นดิน กรณี “กเฬวราก” พฤติกรรมสุดเถื่อน รังแกคุณหมอคนไทย บนผืนแผ่นดินไทย จนถูกแรงกดดันจากสังคมจึงยอมขอโทษ แต่เหมือนจุดไฟในนาครไปแล้ว เรื่องราวฝรั่งและภรรยาคนไทย ได้ถูกขุดคุ้ยลงลึกทั้งเรื่องธุรกิจปางช้าง และธุรกิจอื่นๆ
รวมไปถึงประเด็นแสวงหาคอนเน็คชั่นพวกพ้องที่มียศ มีตำแหน่ง เพื่อสร้างอิทธิพล ทำให้เรื่องลุกลามใหญ่โตไปถึงเรื่องมาเฟียภูเก็ต ที่ถูกตั้งคำถามตัวโตๆว่าถึงเวลาหรือยังที่จะล้างบางกันเสียที! โดยเรื่องนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ชื่อ นายอดุลย์ ชูทอง ออกมาการรันตรีว่าจังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีความปลอดภัย ไม่มีมาเฟียต่างชาติ หากมีที่ไหนเบาะแสอย่างไร สามารถแจ้งมาได้ จังหวัดภูเก็ตไม่นิ่งดูดาย ในเรื่องมาเฟียต่างชาติ ส่วนศักดิ์ศรีความเป็นไทย เราคุ้มครอง เกียรติและศักดิ์ศรีไม่ ให้ใครมาดูถูกเราได้ ส่วนต่างชาติที่ทำผิดต้องว่าไปตามการกระทำความผิด สอดคล้องกับที่ ผู้ว่าฯภูเก็ต ยืนยันเสียงแข็งก่อนหน้านี้ว่า “ภูเก็ต ไม่มีมาเฟียต่างชาติ”
ขณะที่เจ้านายของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อย่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย อย่างเสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” เขาเก่งการเล่นกับสถานการณ์ จึงออกแอ๊คชั่นในเรื่องนี้ ด้วยการสั่งด่วน อธิบดีกรมการปกครองประสานผู้ว่าภูเก็ต เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะการปราบแก๊งมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติในพื้นที่ซึ่งส่วนตัวรับไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแค่ผู้มีอิทธิพลคนไทย ยังไม่ยอม ดังนั้นการจะให้ชาวต่างชาติมาเป็นผู้อิทธิพล มาเป็นมาเฟียคงยอมไม่ได้เช่นกัน
ส่วนภาคการเมืองอีกราย คือ เสี่ยแด๊ก นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติระบุ”ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการว่ามีกลุ่มต่างชาติ ทำธุรกิจแย่งอาชีพผู้ประกอบการคนไทย ต่างชาติเหล่านี้มีพฤติกรรมเป็นมาเฟีย กร่าง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ลักลอบใช้ยาเสพติดในสถานบันเทิง ทางการต้องกวาดล้างโดยด่วนเพื่อไม่ให้ใช้ไทยเป็นฐานประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เข้าขั้นการฟอกเงินสีเทา และจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภูเก็ตด้วย”
ทั้งนี้ในเรื่อง มาเฟียภูเก็ต นั้นถ้าถามคนพื้นถิ่นต่างรู้ว่ามีอยู่จริง โดยในช่วง ก.ย.ปี 2566 สื่อนอกชื่อดัง ตีข่าวว่าชาวภูเก็ตโวย รัสเซียแห่ทำธุรกิจยึดกิจการคนไทย” โดยระบุถึงการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์, การประกอบธุรกิจท่องเที่ยวหรือการขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน, การทำงานที่ผิดกฎหมายและแย่งงานคนไทย, การแอบเข้ามากบดานของคนร้ายสัญชาติรัสเซีย ซึ่งตอนนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยออกโรงโต้สื่อต่างชาติ ชี้ตรวจสอบแล้วไม่พบแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ข้อมูลจากทางการไทยเคยระบุว่า ” ภูเก็ต ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะกลุ่มมาเฟียคนไทยขณะเดียวกันการรุกคืบเข้ามาของกลุ่มธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่ปี 2553เป็นต้นมา ทั้งรัสเซีย เกาหลี จีน พบว่า กลุ่มมาเฟียข้ามชาติเข้ามาตั้งบริษัทโดยมีสำนักงานทนายความ ช่วยจัดการด้านกฎหมาย มีคนไทยเป็นนอมินี 1 คนรับจดทะเบียน 20-200 บริษัท มาเฟียข้ามชาติจะประกอบธุรกิจทุกรูปแบบ ตั้งแต่ทัวร์ รถเช่า โรงแรม เอาท์เล็ตร้านอาหาร ร้านยา ธุรกิจนำเที่ยว แย่งอาชีพคนไทยชาว
นอกจากนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาบางท่านมีความเป็นห่วงเรื่องชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในภูเก็ตเป็นเวลานานมีพฤติกรรมเป็นมาเฟียต่างชาติ ทาง นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลั่น “ใครที่เข้ามาทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจหรือการดำเนินการใดๆ จะต้องดำเนินการโดยเฉียบขาด โดยจัดชุดเจ้าหน้าที่ลงไปดำเนินการกับกลุ่มพวกนี้อยู่แล้ว ยืนยันภูเก็ต ไม่มีมาเฟียต่างชาติแน่นอน
อย่างไรก็ตามในเคทของคุณหมอถูกต่างชาติรังแกนั้น ขณะนี้มีกระแสให้ขับไล่ออกนอกประเทศไทยซึ่งขณะนี้ ผู้ว่าภูเก็ต มีแนวคิดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชอบความประพฤติของชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตถ้าชาวต่างชาติรายใดเข้าข่ายในการเพิกถอนวีซ่าก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดทันที..สุดท้ายต้องจับตาว่าเมื่อฤดูกาลล่าถลกหนังล้างบางมาเฟียภูเก็ตมาถึงแล้ว ภาครัฐจะเอาจริงเอาจังได้แค่ไหน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
