วันนี้ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลง ความคืบหน้ากรณี นายธนัญชัย อายุ 45 ปี หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิท นายประวีณ หรือ กำนันนก ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร หรือ สว.ศิว เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน ได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อช่วงวันที่ 6 ก.ย.66 ที่ผ่านมา
โดยประเด็นความผิดตามป.อาญา มาตรา 157 กรณีมีภาพข่าวที่ปรากฏมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบแล้วพบว่า ในวันเกิดเหตุมีข้าราชการตำรวจไปร่วมงานถึง 29 คน ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบอีกว่า พันตำรวจเอก วชิรา หรือผู้กำกับเบิ้มอยู่ในกลุ่มให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันทีขณะเกิดเหตุ
โดยหลังเกิดเหตุได้เร่งรีบนำตัว พ.ต.ต.ศิวกร และ พันตำรวจโทวศิน ไปโรงพยาบาลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องโดยทันที ไม่เข้าข่ายเป็นความผิด เป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องนำคนเจ็บส่ง โรงพยาบาล ไม่มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนประเด็นเรื่องกล้องวงจรปิดพบมีทั้งหมด 15 ตัว ในจำนวนที่ใช้ได้ทั้ง 13 ตัวและกล้องที่เสียมานาน 2 ตัว ส่วนกล้องตัวที่ 6 เป็นกล้องตัวที่สำคัญที่สุดซึ่งจะสองไปยังจุดเกิดเหตุ จะทำให้เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน แต่ประเด็นคือกล้องตัวที่ 6 ถูกถอดปลั๊กออกตั้งแต่เวลา 10:16 น. โดยขณะนี้กองบังคับการปราบปรามกำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับจากประเทศที่ 3 และนิติวิทยาศาสตร์เพื่อกู้ไฟล์ภาพจากกล้องตัวดังกล่าว
สำหรับเรื่องการโอนสำนวนมาที่ตำรวจสอบสวนกลางนั้น พล.ต.ท.จิรภพ เผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและสลับซับซ้อนรวมถึงเกรงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงรับโอนคดีมาตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน ขณะที่ในคดีอื่นๆไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรหรือตำรวจสอบสวนกลางงานที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้มีการร่วมงานอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นเป็นการทำงานร่วมกันหลายฝ่าย การแยกกันทำมองว่าเป็นการซ้ำซ้อน การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนมาก็ไม่ได้มีปัญหา และไม่ได้เป็นการตัดสิทธิบิ๊กโจ๊ก? เพราะท่านสามารถมาช่วยทำคดีได้ ตนมองว่าเป็นการทำงานร่วมกัน และยืนยันไม่ได้มีปัญหาในการทำคดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews