จับตารัฐบาลเศรษฐาลุยทำผลงาน ผลักดันนโยบายเอาใจประชาชน ลงพื้นที่เร่งแก้ปัญหาหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว กอบกู้คะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทย ส่วนกระแสดราม่าเศรษฐาโยนปากกานั้น นักวิชาการแนะควรปรับบุคลิกให้เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะแก้ไขรัฐธรรมนูญจ่อยืดเยื้อหรือไม่
รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา บอกกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าหลังจากที่เศรษฐา รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยในระยะสั้นนั้นคิดว่าจะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะเป็นทีมนักธุรกิจที่มีความรู้ มากประสบการณ์ ดังนั้นเรื่องเศรษฐกิจจึงไม่น่ากังวล และคาดว่าจะทำให้คะแนนนิยมกลับมาอีกด้วย ขณะที่นโยบายการเมือง
พบว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อหากย้อนไปก่อนหน้านี้บอกว่าจะรีบร่างเพื่อคืนอำนาจแต่สุดท้ายหมอชลน่าน ศรีแก้ว ก็ไม่ได้ทำแบบที่พูด ซึ่งภาพรวมประเด็นสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ คือประเด็นสังคม ที่มีทั้งเรื่องยาเสพติด คน
เสียสติ วิกลจริตต่างๆที่ลุงตู่ปล่อยปละละเลยสะสมมาถึง 9 ปี ซึ่งเป็นผลพวงมาตั้งแต่รัฐบาลลุงตู่นั่นเอง ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเศรษฐา รีบแก้ไขปัญหานี้โดยเร่งด่วน
ส่วนกรณีที่มีดราม่าต่างๆออกมาว่านายกฯโยนปากกา นายกฯดุตำรวจต่างๆนั้น ก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนสำคญของเศรษฐาที่จะต้องปรับบุคลิกให้เหมาะสมกับตำแหน่งนายก รัฐมนตรีด้วย นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาด้านเศรษฐา ก็ทยอยลงพื้นที่ในหลายจังหวัด เพื่อหวังผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ปากท้อง เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น
โดยล่าสุด เศรษฐา ได้บอกกับชุมชนไทยในประเทศสหรัฐอเมริกาว่าปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย รัฐบาลจะเยียวยาจิตใจของคนเห็นต่าง ในความคิด ความเชื่อให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องใช้ถ้อยคำที่ดูถูกเหยียดหยาม ข่มขู่ทำร้ายซึ่งกันและกัน ส่วนปัญหาเรื่องเศรษฐกิจแก้ได้
แต่ไม่อยากจะบอกว่าแก้ง่ายกว่า เรามั่นใจในรัฐบาลนี้ และศักยภาพของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกประเทศ แต่เรื่องของความเห็นต่าง ทางด้าน ความคิด ความเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน แต่ยังต้องใช้เวลา และนโยบายมาช่วยเหลือ พูดคุยกันในพื้นที่ที่ปลอดภัย รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
ซึ่ง5นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเศรษฐามีดังนี้ 1.เติมเงิน10,000บาท ผ่าน Digital Wallet 2.แก้ปัญหาหนี้สิน เช่น พักหนี้เกษตรกร 3.ลดภาระค่าใช้จ่ายราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้าฯลฯ 4สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และ5.หารือแนวทางนำประชามติแก้รัฐธรรมนูญฯลฯ
ทั้งนี้เมื่อสอบถามกรณีหากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ จะมีการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนหรือไม่ นพ.ชลน่าน ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และกล่าวสั้น ๆ ว่า ไม่ตอบครับ ด้านสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องแยกออกจากเรื่องการบริหารงานของรัฐบาล แต่อาจมีคนที่ไปคำนวณเวลาหรือตีความว่า การแก้ไขธรรมนูญอาจใช้เวลา 2-3 ปี และนำไป เปรียบเทียบกับเวลาการบริหารงานของรัฐบาลตามที่เศรษฐา กำหนดไทม์ไลน์ในเรื่องต่าง ๆ ไว้ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งที่เป็นคนละเรื่องกัน
นอกจากนี้ล่าสุดก็มีเรื่องให้สังคมต้องติดตามกันอีกแล้ว หลังเศรษฐา บอกกับสื่อนอกว่าหากทักษิณ ชินวัตร พ้นโทษจะแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งสุทิน คลังแสง และภูมิธรรม เวชยชัย ก็ได้ออกมาสนับสนุนอีกด้วย ดังนั้น ก็คงต้องมาจับตาดูว่าสังคมจะมีปฏิกริยาอย่างไร แล้วจะมีแรงต่อต้านหรือสนับสนุนมากน้อยเพียงใด แล้วสุดท้ายทักษิณจะเป็นได้จริงหรือ
อย่างไรก็ตามประชาชนต่างก็หวังว่ารัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจ ปากท้องดีขึ้นในเร็ววัน แต่ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจนั้นก็ยังคงถูกจับตาเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
