เมื่อเวลา 05.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเข้าปิดล้อม ซอยโรงเจร้างหลังวัดแห่งหนึ่งใน อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี เพื่อจับกุมนายธนัญชัย หรือ หน่อง
มือปืนที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง1 กองกํากับการ2 กองบังคับการตํารวจทางหลวง จนเสียชีวิตโดยคนร้ายมีการต่อสู้และชักอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี จนสุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญในที่สุด
โดยหลังวิสามัญคนร้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่าการดําเนินการของเจ้าหน้าที่ตํารวจเป็นไปตามยุทธวิธีทุกขั้นตอน ซึ่งนี้ไม่ใช่การฆ่าตัดตอน และการแก้แค้น เพราะหากจับกุมได้ก็สามารถสอบปากคําขยายผลต่อไปได้ แต่ผู้ต้องหามีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ ซึ่งตนเองได้กําชับเจ้าหน้าที่ตํารวจทุกนายไปแล้วว่าให้ระมัดระวังตัว และหากผู้ต้องหาขัดขืนให้ลงมือทันทีเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกนาย
ด้านนายประวีณ หรือ กำนันนก ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจ้างวานฆ่า หลังทราบเรื่องที่นายหน่อง ถูกตํารวจวิสามัญไปแล้วนั้นมีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้พูดถึงนายหน่องคนสนิทแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะยังอยู่ในอาการตกใจ
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่าได้มีการเบิกตัวนายประวีณ หรือ กำนันนก จาก สภ.เมืองนครปฐม มายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อทําการสอบปากคําอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมากํานันนกยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้สั่งให้นายธนัญชัยยิง พ.ต.ต.ศิวกร แต่อย่างใด ยอมรับเพียงแค่ว่าอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งการกระทําดังกล่าวนายธนัญชัย เป็นผู้ตัดสินใจยิงเองไม่เกี่ยวข้องกับตน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 9.40 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการปราบปราบคุมตัวนายประวีณ หรือ กำนันนก จาก สภ.เมืองนครปฐม มาถึงกองบังคับการปราบปราม หลังสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งโอนคดีมาให้กองบังคับการปราบปรามเป็นดูแลคดี โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่ากํานันนกมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้สั่งให้นายหน่อง ไปยิง พ.ต.ต.ศิวกร หรือไม่นั้น เบื้องต้นกํานันนก ปิดปากเงียบและไม่ตอบคําถามใดๆรวมถึงทนายความและญาติที่เดินทางมาพร้อมกันก็ไม่ให้ข้อมูลหรือพูดจาใดๆก่อนเดินขึ้นไปยังห้องสอบสวนทันที ซึ่งทางกํานันนก ได้ทําหนังสือชี้แจงระบุว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสั่งการใดๆให้นายหน่อง กระทําความผิดดังกล่าวทั้งสิ้น
ขณะที่ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีตำรวจ 21 นาย ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุแต่กลับได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า พบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน อีกทั้งตํารวจบางนาย มีต้นสังกัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่กลับไปปรากฎตัวในพื้นที่เกิดเหตุด้วย และยังมีผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดนครปฐม ที่เป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวนของทั้งจังหวัด โดยจะต้องสอบสวนตำรวจทุกนาย ถึงสาเหตุที่ปล่อยให้มีการทำลายหลักฐาน และปล่อยให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป และหากพบตำรวจนายใดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุด้วยว่าขณะนี้คดีแยกออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือคดีหลักจะเป็นความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม ส่วนคดีวิสามัญจะเป็นในส่วนของตำรวจภูธรท้องที่รับผิดชอบและประเด็นตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะเป็น สภ.เมืองนครปฐม เป็นผู้รับผิดชอบ แต่อย่างไรก็ตามใน 2 ประเด็นหลังตนจะเป็นผู้รับผิดชอบและกำกับดูแลคดีด้วยตัวเอง
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจจะนําตัวนายประวีณ หรือ กำนันนก ไปยื่นฝากขังต่อศาลอาญาก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
