พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุโกดังพลุระเบิดในพื้นที่ชุมชนตลาดมูโนะ จ.นราธิวาส
จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ว่า จากการสอบสวนและลงพื้นที่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้ทราบรายละเอียดทั้งหมด และพบว่า 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดังพลุดังกล่าวได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจากการประสานงานกับสองสามีภรรยาเขาอ้างว่าไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยเกรงจะรุมประชาทัณฑ์ หลังจากนั้นทั้งสองจึงได้ติดต่อผ่านตำรวจมาเลเซียเพื่อขอเข้ามอบตัวกับตน เพื่อสร้างความปลอดภัย
ล่าสุดทั้งสองสามีภรรยาได้ดินทางเข้ามามอบตัวแล้วผ่านทางบริเวณด่านพรมแดนไทยสะเดา จ.สงขลา โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตม. และตำรวจ สภ.มูโนะ เดินทางไปรอรับมอบตัวก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนไปบันทึกการจับกุมและทำระเบียนประวัติตามขั้นตอนของผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ
จากการสอบปากคำทั้งคู่ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและให้การที่เป็นประโยชน์ ว่าซื้อสินค้าต่างๆมาจากที่ไหน ขนส่งอย่างไร นำเข้ามาอย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ประเด็นที่ประชาชนตั้งคำถามว่าของมีจานวนมากขนาดนี้และมี 5 หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลอาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณะสุข แต่เหตุใดถึงยังสามารถเก็บพลุได้มากถึง 400-500 กิโลกรัม
โดยหลังจากนี้จะไล่สอบสวนตั้งแต่ที่ ท่าเรือแหลมฉบังลงมามีการจดแจ้งเป็นเท็จหรือไม่ หากมีก็ต้องไล่ไปต่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐส่วนใดที่กระทำความผิดบ้าง รวมไปถึงการขนส่งมีการอนุญาตด้วยหรือไม่แต่เบื้องต้นพบว่าไม่มีการขออนุญาต และมีการขนส่งไปมาแล้วกี่ครั้ง ซึ่งถือเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ
อีกส่วนหนึ่งคือพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีระเบียบพิเศษอยู่ คือผู้เสียชีวิตได้ค่าทำศพรายละ 5 หมื่นบาท แต่หากการสอบสวนสามารถพิสูจน์ได้ว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดจากความบกพร่องหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินเพิ่มอีกรายละ 5 แสนบาท อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการอยู่เพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
