เหตการณ์อุกฉกรรจ์ของกลุ่มชาย 5 คน ที่ใช้อาวุธปืน เข้าไปก่อเหตุ ขู่บังคับ พาตัว นายอุเทน วัย 40 ปี ออกมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ร่มเกล้า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา สร้างความตระหนกตกใจให้กับผู้ที่ประสบเหตุอยู่ในร้านอาหารดังกล่าว เพราะมีการใช้อาวุธปืนเข้าไปข่มขู่ และมีการทำร้ายร่างกายกัน ก่อนที่นายอุเทน จะถูกอุ้มขึ้นรถยนต์ ที่จอดรออยู่หน้าร้าน
ภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นภาพของกลุ่มคนร้าย เดินเข้าไปภายในร้าน และมีเสียงกรีดร้องของคนในร้านที่เอะอะโวยวาย หลังจากกลุ่มคนร้าย 5 คน ขับรถ 2 คันออกจากร้าน มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนร่มเกล้า ถึงบริเวณหน้าห้างสะดวกซื้อชื่อดัง พบกับด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด่านตรวจ สามารถช่วยเหลือผู้เสียหาย ออกมา และจับกุมตัว คนร้ายทั้ง 5 คนพร้อมยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนได้อีกจำนวนหนึ่ง
พ.ต.อ.ชนาวิน พวงเพชร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เดินทางมายัง สน.มีนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยระบุว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะทำการสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด เพราะเบื้องต้น ในส่วนของกลุ่มผู้ต้องหานั้น ความผิดที่พบ คือเรื่องการครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธรณะโดยไม่มีเหตุอันควร และเพื่อให้ทราบถึงพฤติการณ์ แรงจูงใจของการก่อเหตุ และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม กับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนต่อไป
รอง ผบก.น.3 ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ในส่วนของคดีนี้ เกิดเหตุใน 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ สน.ร่มเกล้า เป็นจุดที่ผู้เสียหายถูกขู่บังคับขึ้นรถ และ สน.มีนบุรี เป็นจุดที่ ตำรวจตั้งด่านตรวจ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ดังนั้น เป็นไปตามป. วิอาญามาตรา 19(ก) เนื่องจากกรณีเป็นเหตุต่อเนื่องหลายท้องที่และเป็นกรณีที่มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ พนักงานสอบสวน ท้องที่ ที่มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ ดังนั้น พนักงานสอบสวน ที่ต้องรับผิดชอบคดีนี้ คือ สน. มีนบุรี
ทางด้านแม่ของผู้ต้องหา ระบุว่า ลูกชายของตนเอง2คน คือ นายอาทิตย์ กับนายวิษณุ ถูกจับกุม ในคดีนี้ด้วย และเพิ่งทราบเหตุ เมื่อช่วงตี 3 ที่ผ่านมาเพราะลูกคนเล็กไปบอก โดยลูกชายทำอู่รถยนต์ และทำร้านอาหาร ปกติจะมีเพื่อนไปหา ไปนั่งพูดคุยดื่มเหล้า พร้อมยืนยัน ว่าลูกชายไม่เคยรู้จักผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมือง เพราะแถวบ้านก็มีแต่กำนันที่ดูแลชาวบ้าน เพราะตนเองเป็น อสม. ที่ต้องทำงานประสานกับทางกำนันผู้ใหญ่บ้านด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายนุกูล หนึ่งในผู้ก่อเหตุอุ้ม นายอุเทน ผู้เสียหาย เคยรู้จักนับถือกันเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง เพราะเรียนสถาบันอาชีวะเดียวกันในย่านบางกะปิ โดยนายนุกูล เป็นหัวโจกก่อเหตุอุ้ม ในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งคู่เคยเดินติดตามนักการเมืองมาหลายปี ซึ่งนายนุกูล ได้พานายอุเทน เข้าวงการนี้ แต่ช่วง 2-3 ปีให้หลัง นายนุกูล ได้ออกจากวงการไป และนายยุ้ยเข้ามาแทนที่
กระทั่ง 2-3 วันก่อน นายนุกูล ได้ไปยึดปืนรุ่นน้องนักเรียนช่างเทคโนโลยีบางกะปิ จึงไปขอความช่วยเหลือจากนายอุเทน ให้เอาปืนคืนจากนายนุกูล แต่นายนุกูลได้เรียกเงินค่าไถ่ปืนจำนวน 10,000 บาท และตกลงกันไม่ได้ และสุดท้าย ปืนก็ถูกเอาไปคืนแล้ว โดยไม่ต้องเสียเงิน จึงทำให้เกิดความบาดหมางกัน และอาจเป็นชนวนของการก่อเหตุในครั้งนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
