fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“พิธา” รอดหุ้นสื่อไม่จริง…รอวันโดนสอย

จากมติเอกฉันท์ กกต.ไม่รับคำร้องหุ้นสื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ของ 3 นักร้องชื่อดัง “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ-ศรีสุวรรณ จรรยา-สนธิญา สวัสดี” ตามมาตรา 98(3) ไว้พิจารณา ด้วยเหตุผลว่าเป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลา

 

 

 

ซึ่งคำร้องแรกเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้ง เพียง 4 วัน ดูผิวเผิน เหมือนเป็นคุณกับก้าวไกล และ “พิธา” รอดพ้นข้อหาขาดคุณสมบัติ จากการถือหุ้นสื่อแล้ว สามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลคลายความวิตกกังวลให้กับด้อมส้มไปเปราะหนึ่ง หลังอึดอัดใจกันมา 1 เดือนเต็ม แต่คงดีใจได้ไม่สุด เพราะ กกต.กลับทิ้งท้ายว่า คำร้องดังกล่าว มีรายละเอียดข้อเท็จจริง พฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควรมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวน ไต่สวนต่อไป ว่า “พิธา”เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

 

 

เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่ได้สมัครรับเลือกตั้งเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42 (3) และมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นดูเหมือนจะร้ายแรงยิ่งกว่า ฐานความผิด ในมาตรา 98(3) เสียอีก เพียงแต่ยังจะมีโอกาส ได้เข้าไปเป็น ส.ส.ก่อนส่วนจะมีสิทธิ์ ไปถึงวันเสนอชื่อต่อสภาเพื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ยังคาดเดาไม่ออก ว่าจะถูก กกต.เช็กบิลทีหลังในประเด็นนี้ช่วงเวลาใด

 

 

ย้อนกลับไป เมื่อปี 62 หลังเลือกตั้ง 22 มี.ค. เพียง 3 วัน “ศรีสุวรรณ” ยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ที่ห้ามผู้เป็น ส.ส.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด หรือไม่ ซึ่งพล๊อตเรื่องก็คล้ายกับ กรณีของ “พิธา” ที่กกต.ไม่รับคำร้องตามเหตุผลที่ชี้แจงไปแล้ว

 

 

แต่นั้นเหมือนเป็นการเปิดช่องให้ร้องใหม่อีกครั้ง ตามช่องทางอื่นที่มีอยู่ นั่นคือการเอาผิดหลังจาก กกต.ประกาศรับรองการเป็น ส.ส.ไปแล้วนั่นเอง เพราะ 4 ปีก่อนหลังประกาศรับรอง ส.ส.แล้ว กกต.ก็ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติของ”ธนาธร” และผลก็เป็นตามที่รู้กัน ซึ่งเมื่อเทียบเคียงกับกรณีของ “พิธา” ณ เวลานี้ รูปแบบอาจแตกต่างกันอยู่บ้าง

 

 

แต่ปลายทางคงหนีกันไม่ไกลมากนัก ท้ายที่สุด คุณสมบัติของ “พิธา” ก็จะต้องไปจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงอาจไปยังศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองด้วย ในข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่ได้สมัครรับเลือกตั้ง ในมาตรา 151 นั่นเอง ดังนั้น มติของ กกต. ที่ตีตก 3 คำร้องไปนั้น

 

 

เป็นเพียงพิธีกรรม ยื้อเวลา ลดกระแสกดดันของสังคมเท่านั้น เพราะ เมื่อประกาศรับรอง ส.ส.ไปแล้ว มาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ ก็อาจถูกนำมาใช้ คือสมาชิกรัฐสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานสภาที่ตนเป็นสมาชิก ส่งคําร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกรัฐสภาผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ ได้นั่นเอง ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเมื่อรับรอง ส.ส.แล้ว “พิธา” ก็จะเริ่มถูกสอย ด้วยข้อหาหุ้นสื่อนี้อีกครั้งอย่างแน่นอนโดยเฉพาะจากฝั่งของ ส.ว. ที่มีการตั้งคณะทำงานติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube