fbpx
Home
|
ข่าว

“ลิเวอร์พูล”บุกชนะ”แมนยู”4-2ขึ้นรั้งอันดับ5

Featured Image
ลิเวอร์พูล บุกชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 เพิ่มโอกาสในการลุ้นไปเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020-2021 นัดตกค้าง เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบไร้คนดูตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำศึกแดงเดือดพบกับ ลิเวอร์พูล

โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น เอดินสัน คาวานี ทำเกมรุกร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ ปอล ป็อกบา

ด้านทีมเยือนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และ ดิโอโก้ โชต้า

ครึ่งแรก นาทีที่ 10 แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายทะลุให้ อารอน วาน-บิสซากา หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายย้อนมาให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ดีดด้วยขวา บอลโดน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

จากนั้นนาทีที่ 28 แมนยูฯ เกือบเสียจุดโทษจากจังหวะ เอริก ไบญี ดูเหมือนจะเสียบ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ร่วงลงไป ตอนแรกผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ ก่อนจะไปเช็กวีเอาร์อีกครั้งและเปลี่ยนใจเนื่องจากมองว่า ไบญี สกัดโดนที่บอล
ถึงนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะเตะมุมสุดท้ายบอลมาเข้าทาง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ตวัดยิงด้วยขวามาเข้าทาง ดิโอโก โชตา ไขว้ยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ 45+3 ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1 จากจังหวะได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดไปที่เสาสอง โรแบร์โต เฟอร์มิโน โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 47 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 3-1 จากการยิงของ โรแบร์โต เฟอร์มิโน

จากนั้นนาทีที่ 68 แมนยูฯ ไล่มาเป็น 2-3 จากจังหวะที่ เอดินสัน คาวานี จ่ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากเข้าเขตโทษแล้วซัดเข้าไป

ถึงนาทีที่ 90 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 4-2 จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนยิงผ่าน ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไปไม่พลาด

จบเกมเป็นลิเวอร์พูลบุกมาชนะไป 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 2 ยังมี 70 คะแนนเท่าเดิม

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube