Home
|
ข่าว

ล่มดีล “ทักษิณ”หนี- “ชั้น14” ล้ม “รัฐบาลอิ๊งค์”

 

นอกจากฉากมติคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวาน 8พ.ค.2568 ที่สรุปไม่มีเป็นที่ประจักษ์ว่า “คนชั้น14 “อย่าง“ นายทักษิณ ชินวัตร” จะป่วยหนักจนวิกฤติ จนเป็นเหตุที่จะอ้างตามกฎหมาย ว่าจำเป็นต้องถูกส่งโรงพยาบาลข้างนอกเรือนจำ ดังนั้น จึงสั่งลงโทษจริยธรรม 3 แพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์  และโรงพยาบาลตำรวจ ที่มีส่วนช่วยให้ ให้นายทักษิณ ชินวัตร ป่วยทิพย์ ไม่ถูกคุมขังในเรือนจำ แต่ไปอยู่ที่ห้องผู้ป่วยVIP ชั้น14 รงพยาบาลตำรวจ นับตั้งแต่วันที่ 23ส.ค.66 จนกระทั่งครบโทษ โดยข้อสรุปแพทยสภาเมื่อวาน(8พ.ค.2568) ถูกวิเคราะห์จากหลายฝ่ายว่าจะเป็นสารตั้งต้นที่จะทำให้ผู้คนในขบวนการช่วย “คนชั้น14”ได้รับผลกระทบ และจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกับการปิดฉาก “รัฐบาลเพื่อไทย” ของ “นายกอิ๊งค์” ที่อยู่ไม่ได้หากไม่มีคุณพ่อช่วย

อย่างที่ หมอวรงค์-นพ.วรงค์ เดชวิกรม จากกลุ่มไทยภักดี โพสต์ Facebook ว่า หลายคนถาม ว่าทำไมคนถูกลงโทษน้อย ขอย้ำอีกครั้งว่า ผลของแพทยสภาเป็นแค่ “สารตั้งต้น” ที่ลงโทษเฉพาะแพทย์ทางด้านจริยธรรม ส่วนการลงโทษอาญา ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าป.ป.ช.จะสาวถึงใครบ้าง ตนคิดว่าน่าจะ “ตายยกรัง” ส่วน “ตัวการใหญ่” ที่เป็นนักโทษ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองน่าจะใช้ประโยชน์จากผลสอบ ของแพทยสภาได้มาก เพราะเขายังไม่ติดคุก มีขบวนการช่วยเหลือเขา สุดท้ายตนเชื่อว่าหนี

 

เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ที่เปรียบตอนนี้ นายทักษิณเหมือนถูกนับถึง 9 แล้ว และวันที่ 13 มิ.ย.25658 จะถือว่าเป็นการนับ 10 โดยมองว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ พร้อม ฝากข้อความถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้อาจไม่ได้ให้ข้อมูลตามความเป็นจริงต่อผู้รับผิดชอบและศาล แต่วันนี้ความจริงได้ปรากฏแล้วว่า “นายทักษิณ”ไม่ได้ป่วยตามที่ตนเองได้เคยกล่าวไว้ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ดังนั้น เวลานี้จึงไม่มีใครสามารถช่วยเหลือ “ทักษิณ”ได้ และว่า แม้จะมีบุคคลที่มีอำนาจ อย่างนายทักษิณอีก 10หรือ 100 คน ก็ไม่สามารถช่วยได้ในสถานการณ์นี้ โดยมีหนทางเดียวคือการให้ข้อมูลความจริงต่อศาลและ ป.ป.ช. เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและเป็นธรรม การสารภาพจะเป็นประโยชน์ในการช่วยลดโทษได้กึ่งหนึ่ง

 

และยังเชื่อว่าหากทักษิณ สิ้นสุดบทบาททางการเมือง “นายกอิ๊งค์”จะได้รับผลกระทบด้วยอาจถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรมกรณีเคยบอกว่าพ่อป่วยและเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งหากไม่เป็นความจริง ก็อาจทำให้ดำรงตำแหน่งต่อไปไม่ได้ จึงแนะว่าควรยุบสภา หรือให้ “นายกอิ๊งค์” ลาออก และเดินทางไปต่างประเทศเพื่อตั้งหลักก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยในคดีของ “นายทักษิณ” หากไม่ดำเนินการดังกล่าว ก็อาจต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับบิดา และมองว่า รัฐบาลปัจจุบันอยู่ได้อีกไม่นาน อาจมีการยุบสภาเร็ว ๆ นี้
และผู้ที่เกี่ยวข้องควรเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศ เพราะอาจไม่สามารถพำนักอยู่ในบางประเทศได้ เช่น สหรัฐอเมริกา แต่อาจยังสามารถเดินทางไปดูไบได้

 

ขณะที่ วงวิเคราะห์การเมือง ประเมินว่า จาก “3 สัญญานเชิงลบ”กับ “ทักษิณ” คือ 1.กรณีแพทยสภา ฟัน 3 หมอที่ช่วย “คนชั้น14” 2.ศาลอาญายกคำร้อง “ทักษิณ” ที่ขอเดินทางไปกาตาร์ มาเลเซีย เพื่อเจรจาภาษีการค้าสหรัฐ กับ “ประธานาธิบดีทรัมป์”และ 3.กรณี ศาลฎีกานักการเมือง หยิบเรื่องชั้น 14 มาไต่สวนเองในวันที่ 13 มิ.ย. 2568

 

รวมถึงกรณีเปรียบเทียบกับคดี “ฮั้วเลือกตั้งสว.”ที่มี “สว.สีน้ำเงิน”และ “นักการเมืองสีน้ำเงิน”อย่าง “ภูมิใจไทย” เป็นเป้า ที่มีการสรุปผลหรือขยับจาก กกต.ช้ากว่า จน “ทวี”และDSIต้องออกมาแอ๊คชั่นผ่านกลไกอำนาจมีการประเมิน ว่า อาจเป็น “สัญญาน”ให้ “ทักษิณ”รู้ตัวว่า ”ผู้มีอำนาจ“ ที่เคย “เปิดดีลลับ”ก่อนที่ “ทักษิณ”จะกลับมาตกลงแล้วว่า จะ เลือกเล่นไพ่ใบไหน หลังจากที่ “ฝ่ายอำนาจ”ประเมินงานผ่าน “ผลงานรัฐบาล” ตั้งแต่ “รัฐบาลเศรษฐา”จนถึง “รัฐบาลอิ๊งค์”ที่ยังไม่สามารถเข็นนโยบายที่ชัดเจนออกมาสู้กับ “วิกฤติเศรษฐกิจ” ละลอกแรก กระทั่ง วิกฤติลูกที่2 จาก “ภาษีทรัมป์”มา

 


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube