Home
|
ข่าว

คปท.ยื่นกกต.ตรวจสอบ”พิชิต”ขาดคุณสมบัตินั่งรมต.

Featured Image

 

 

คปท.ยื่น กกต.ตรวจสอบ”พิชิต”ขาดคุณสมบัตินั่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เหตุเคยถูกศาลตัดสินจำคุก 6เดือน คดีถุงขนม 2 ล้าน ชี้ผิดจริยธรรมร้ายแรง ร้อง ป.ป.ช.สอบ “นายกฯเศรษฐา”

 

 

คปท. ร่วมกับ ศปปส. และกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ไชยมงคลเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นหนังสือกรณีคุณสมบัติของรัฐมนตรี นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติสำคัญตามมาตรา 160(5) ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนด ว่า ผู้ที่เป็นรัฐมนตรีจะต้องไม่ เคยประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

ซึ่งศาลฎีกา เคยมีคำวินิจฉัยว่าคุณสมบัติดังกล่าวจะนับย้อนหลังตั้งแต่ก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่วันที่ 25 มิ.ย. 2551 ได้สั่งลงโทษจำคุก 6 เดือน ละเมิดอำนาจศาลในคดีถุงขนม 2 ล้านบาท

 

ซึ่งแม้จะผ่านมานานแล้วและอาจถูกมองว่าเป็นความผิดลหุโทษ แต่เป็นเหตุให่นายพิชิตถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพทนายความเนื่องจากกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงในฐานะทนานคงามแต่กลับละเมิดอำนาจศาล ศาลได้มีคำสั่งชัดเจนว่า “บังอาจกระทำความผิดต่อกระบวนการยุติธรรม”

 

ซึ่งนายพิชิตมีความพยายามขอต่ออายุใบอนุญาตถึง 3 ครั้งไม่สำเร็จ ดังนั้น ความเป็นรัฐมนตรีควรจะมีจริยธรรมมากกว่าบุคคลอื่น พร้อมมองว่า นายกรัฐมนตรี ควรจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่า นายพิชิต ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลในครั้งแรก จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดยังคงแต่งตั้งนายพิชิต เป็นรัฐมนตรี วันนี้จึงมายื่นเรื่องให้ทางกกต.ตรวจสอบ และเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ว่า นายพิชิต มีคุณสมบัติในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

โดยในสัปดาห์หน้า จะเดินทางไปยื่นทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิชิต ส่วนหลังจากนี้ หากพบว่ามีรัฐมนตรีท่านใดขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญก็จะมายื่นให้ทาง กกต. ตรวจสอบเพิ่มเติม

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube