“ทวี”ไม่ต้องถึงขั้นขอรับคำปรึกษา “ทักษิณ”ปราบยาเสพติด

“ทวี”ยันไม่ต้องถึงขั้นเข้าขอรับคำปรึกษา “ทักษิณ” แก้ยาเสพติด บอกเจ้าหน้าที่ตร.- ปปส. สมัยนั้นยังทำหน้าที่อยู่ มองเป็นหน้าที่รับผิดชอบผู้นำทุกระดับชั้น โวชาวบ้านพอใจผลงานปราบปรามรัฐบาล
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดว่า ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดยาเสพติดจำพวกยาบ้าเป็นหลัก มีการจับกุมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 กว่า 400 ล้านเม็ด จึงจำเป็นต้องมีการปรับวิธีการ ดำเนินการปราบปรามเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น โดยตนจะไปร่วมการประชุมสกัดกั้นกับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง รวมถึงจีนและสหรัฐอเมริกา พร้อมยังระบุว่าจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพึงพอใจในการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
ส่วนจำเป็นต้องมีการทบทวนการกำหนดผู้ครอบครองยาเสพติดห้าเม็ดเป็นผู้เสพหรือไม่นั้นพันตำรวจเอกทวี ระบุว่า ผู้ครอบครองยาเสพติดไม่ว่ามีจำนวนเท่าใด ถือว่าเป็นผู้มีมีความผิด หากดูกฎหมายตามมาตรา 107 มองในกลุ่มผู้บำบัดรักษาตัดสินใจไปหาแพทย์ ซึ่งอาจเป็นบทเฉพาะกาลในการช่วยเหลือแพทย์ว่าการครอบครองยาเสพติดมีความผิดเพื่อให้เป็นเกาะป้องกันตัวกับแพทย์ผู้รักษาแต่ในหมวดของการป้องกัน และปราบปรามไม่ว่าจะมีกี่เม็ดก็ยังถูกดำเนินคดีทั้งหมดซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีกรอบให้กับแพทย์
เมื่อถามว่าในฐานะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีผลงานด้านการปรามยาเสพติด มีแนวคิดที่จะหารือหรือขอความจากคิดเห็นจากนายทักษิณหรือไม่ พันตำรวจเอกทวีระบุว่า ปัจจุบันข้าราชการที่ปฏิบัติงาน ในสมัยนายทักษิณ ก็ยังคงทำหน้าที่อยู่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปปส. ซึ่งสิ่งหนึ่งถือเป็นพลวัตของการแก้ไขปัญหาและต้องยอมรับว่าก่อนหน้าหน้าที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ก็มีการพยายามแก้ไขปัญหาอยู่แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันผสมผสานกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ
หากสามารถนำผู้เสพทั้งหมดเข้ามาบำบัดฟื้นฟูโดยอดีตมักพบว่าผู้ที่เข้ามารับการบำบัดกลับไปเสพยาเสพติดอีกครั้ง จึงต้องนำบทเรียนครั้งดังกล่าว มาทำให้ชุมชนเข้มแข็งซึ่งยอมรับว่าไม่สามารถแก้ไขได้ภายในวันสองวัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องการให้กลับมาเป็นคนที่มีคุณภาพและคืนสู่สังคมสร้างชุมชนสร้างงาน
เมื่อถามย้ำว่าจะเข้าไปขอคำปรึกษาจากนายทักษิณหรือไม่พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่าคงไม่ต้องถึงขนาดเข้าไปขอคำปรึกษาจากนายทักษิณและท่านก็มีผลงานที่เห็นอยู่แล้วเพียงแต่ปัญหาใหญ่คือความรับผิดชอบไม่ใช่เพียงแค่ผู้นำคนเดียว
แต่เป็นความรับผิดชอบของผู้นำในทุกระดับชั้นถ้าผู้ที่มีหน้าที่ไม่รับผิดชอบก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ยาก โดยปัจจุบันก็มีความเข้มข้นมากขึ้นแม้แต่วานนี้ก็มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในปปปส.เองหากเรารับผิดชอบและเจ้าหน้าที่จริงจังมากกว่านี้ก็จะเห็นผลเร็วกว่านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews