“พิชิต คปท.” ย้ำยังชุมนุมต่อเนื่องขอขยายเวลาต่อแล้ว ช่วง 1 เดือนของการเรียกร้อง ถือว่าประสบความสำเร็จ เอา”ทักษิณ”ติดคุกไม่ได้เป็นเหมือนละครที่เดาตอนจบไว้แล้ว เดินหน้าเป้าหมายต่อไป
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ หรือ คปท. เปิดเผยสำนักข่าว INN ว่า หลังจากครบรอบ 1 เดือน การปักหลักชุมนุม ที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล สะพานชมัยมรุเชฐ ทางคปท.ได้มีการขอขยายระยะเวลากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้งไปเรียบร้อยแล้วจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมห้วงระยะเวลาที่จะต้องมีการทวงถามสิ่งที่คปท. ได้มีการเรียกร้องไป ไม่ว่าจะเป็น
วันที่ 4 มีนาคมนี้ 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนาสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวก ในคดี จัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 เพื่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ วันที่ 27 มีนาคม 2567 ครบกำหนด 6 เดือน ที่คณะกรรมการป.ป.ช. ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน
กรณีที่ คปท. ขอให้สอบ รมว.ยุติธรรม เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ได้รับพักโทษ ว่าจะตัดสินหรือขยายเวลา การตรวจสอบหรือไม่ และวันที่ 10 เมษายน 2567 อัยการสูงสุด จะมีคำสั่งแบบไหนอย่างไร กรณีนายทักษิณที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112
และเมื่อประเมินในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาของการชุมนุม ถือว่าได้รับการตอบรับจากบุคลากรของภาครัฐอยู่พอสมควร อย่างเช่นป.ป.ช.ก็มีการเดินหน้าสืบข้อเท็จจริง เพียงแต่ว่าในเชิงของการประสบความสำเร็จ เรื่องการเรียกร้อง ให้คุณทักษิณกลับมารับโทษนั้นอาจจะไม่เห็นผล ไม่ตรงกับเป้าหมายที่หวังไว้ แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดคิดไว้อยู่แล้วว่าจะออกมาเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเป้ารองที่เน้นหนักต่อไปคือการเดินเรื่องตรวจสอบข้าราชการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกระทำผิด ผิดระเบียบ
ซึ่งในส่วนของเป้าหมายรองถือว่าประสบความสำเร็จ มีการเดินเรื่องไปมากพอสมควรซึ่งก็ต้องรอฟังวันที่ 27 มีนาคม ว่าทางป.ป.ช.จะมีทิศทางอย่างไร และในส่วนอื่นๆถือว่าประสบความสำเร็จดีในเรื่องของมวลชนซึ่ง ก็คาดไว้อยู่แล้วว่าจะมีพี่น้องประชาชนจะเข้ามาร่วมไม่ได้มากนักแต่ก็สามารถส่งพลังต่อภาคการเมืองได้ขนาดนี้ ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนได้ถือว่าเป็นไปตามเป้าไว้ที่ประเมินกันตั้งแต่ต้น
ส่วนในเรื่องของการนำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาติดคุก ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จก็ถือได้ว่าเป็นการเดาละครตอนจบไว้ได้แล้วล่วงหน้า ว่ายังไงก็น่าจะออกมาเช่นนี้
แต่เมื่อออกมาแล้วต่างหากที่ต้องจับตา ว่าจะทำให้ทิศทางการเมืองออกมาเป็นอย่างไรจะสร้างความวุ่นวายได้มากน้อยขนาดไหน หรือจะมีอะไรที่ภาคประชาชนต้องตรวจสอบอีกหรือไม่
เพราะเพียงแค่ไม่กี่วันก็มีเรื่องราวเกิดขึ้น เช่น กรณีเกาะกูด และคาดว่าน่าจะมีลักษณะเช่นนี้รวมถึงเรื่องอื่นแทรกเข้ามาอีกเรื่อยๆในช่วงที่นายทักษิณอยู่ระหว่างการพักโทษ
และในกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เวลานี้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 2-3 คน เป็นประเด็นที่มีการพูดคุยกัน เป็นประเด็นทางการเมืองในเรื่องของอำนาจทับซ้อน คงจะไปเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ แต่ก็ต้องรอดูหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจของสว. ว่าจะมีทิศทางการปรับครม.หรือไม่อย่างไร และอีกเรื่องที่ต้องติดตามคือเรื่องของ soft Power ว่าหลังจากมีการปรับครม.เสร็จแล้ว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะเข้ามามีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะจะเกี่ยวพันกับเรื่องของการใช้งบประมาณ ของ soft Power อีก คงจะต้องรอดูอีกที โดยขอเน้นย้ำว่าคปท.จะยังคงกิจกรรมไว้อย่างต่อเนื่องและไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการชุมนุมแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
