fbpx
Home
|
ข่าว

ปชป.เสนอจุดยืนนโยบายยาเสพติดต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน

Featured Image
“ประชาธิปัตย์” เสนอจุดยืนนโยบายยาเสพติด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ต้องปรับปรุงกระบวนการลดโทษหลังคำพิพากษา ผู้ผลิต – ผู้ค้า ให้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย

 

 

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ จตุจักร เบอร์ 14 พร้อมด้วย นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย ผู้สมัคร ส.ส. เขตวังทองหลาง บางกะปิ เบอร์ 1 และนายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางเขน จตุจักร หลักสี่ เบอร์ 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงจุดยืนของพรรคในนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

 

โดยพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า จากปัญหายาเสพติดเป็นภัยคุกคามที่กระทบต่อชีวิต สังคม และประเทศอย่างรุนแรง พรรคประชาธิปัตย์จึงจัดทำโครงการ ฟัง – คิด – ทำ เพื่อรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน และพบว่าปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญปัญหาหนึ่ง ดังนั้นพรรคจึงมีนโยบาย “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่เอายาเสพติด และไม่สนับสนุนกัญชาเสรี” พร้อมๆ ไปกับ นโยบายปราบทุจริต คอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดวิกฤตชาติ และสาเหตุที่ 2 นโยบายดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกันนั้น เป็นเพราะปัญหายาเสพติดส่วนหนึ่งเกิดมาจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นหากเราสามารถแก้ปัญหายาเสพติด และปัญหาทุจริตได้ ก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

 

ดังนั้น ด้วยนโยบาย “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่เอายาเสพติด และไม่สนับสนุนกัญชาเสรี” จึงมีความจำเป็นต้องเริ่มต้นการแก้ไขตั้งแต่การเจรจากับต่างประเทศ การสกัดการส่งออกสารตั้งต้น การเพิ่มอำนาจ ป.ป.ส. ให้มีอำนาจในการสืบสวนสอบสวน ทำสำนวนเพื่อส่งอัยการฟ้องศาลได้ นอกจากนี้ จะต้องมีการจัดตั้งและปรับปรุงสถานบำบัดในทุกจังหวัด โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพื่อให้เกิดกระบวนการสำหรับรักษา เยียวยา ฟื้นฟู และบำบัดสุขภาพของผู้ติดยาเสพติดให้กับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่นนั้น จำเป็นที่จะต้องกำหนดกรอบโทษของผู้กระทำผิด ซึ่งทั้งผู้ก่อ ผู้สนับสนุน ผู้ช่วยเหลือ ต้องได้รับโทษสูงสุดเท่ากัน

 

ด้านนายประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่จะเสนอร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันให้นโยบายพรรคนำไปสู่การปฏิบัติ ปัญหาส่วนหนึ่งของยาเสพติดมาจากกระบวนการหลังคำพิพากษา แม้ประเทศไทยจะมีโทษประหารชีวิต และศาลตัดสินประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตไปแล้ว แต่ผู้กระทำผิดเหล่านั้นเกินครึ่งหนึ่งไม่ได้ถูกประหาร หรือไม่ได้ถูกจำคุกตามระยะเวลาที่ศาลพิพากษา เพราะมีกระบวนการลดโทษหลังคำพิพากษา ซึ่งส่วนตัวมองว่ากระบวนการดังกล่าวอาจมีผลต่อความศักดิ์สิทธิ์ของโทษตามกฎหมายลดลง ดังนั้น นโยบาย “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่เอายาเสพติด และไม่สนับสนุนกัญชาเสรี” จะเป็นนโยบายที่ผลักดันให้กระบวนการลงโทษเป็นไปตามบทลงโทษสูงสุดตามคำพิพากษา นอกจากนี้ จะต้องมีสนธิสัญญา หรือข้อตกลงระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดอำนาจต่อรอง และสร้างความร่วมมืออย่างจริงจังในเรื่องยาเสพติด ป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสารตั้งต้นจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเสนอให้ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้ร้ายข้ามแดนให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการหลบหนีข้ามแดนของผู้กระทำผิด

 

ขณะนายธีรวิทย์ กล่าวว่า นโยบายที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหายาเสพติดอีกนโยบายหนึ่ง คือ นโยบายด้านการศึกษา เมื่อการศึกษาดี จะทำให้ปากท้องดี คุณภาพชีวิตดี พรรคประชาธิปัตย์ จึงมีนโยบาย “เรียนฟรี ถึงระดับปริญญาตรี ในสาขาที่ตลาดต้องการ” และตนในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย จึงต้องการผลักดันกีฬาตั้งแต่ระดับชุมชนเพื่อลดปัญหายาเสพติดและสนับสนุนให้เยาวชนในชุมชนได้เล่นกีฬากันทุกคน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube