“สุวัจน์” พาทัวร์ “ยูเนสโกรูท” เชื่อมสถานที่ท่องเที่ยว 3 มงกุฎ ชูนโยบายชาติพัฒนากล้า หนุน โคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้าและนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดนครราชสีมาและเลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า พาสื่อมวลชนเดินทางไปตามเส้นทาง “ยูเนสโกรูท” หรือถนนยูเนสโก เส้นทางในอนาคตที่จะเชื่อม 3 มงกุฎของยูเนสโกไว้ด้วยกัน คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตชีวะมณฑล ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย และพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
ก่อนหน้านี้พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เปิดนโยบาย “โคราชโนมิกส์” หรือ โคราชนิยม ที่จะนำเศรษฐกิจยุคทองของโคราชอีสานกลับมา ประกอบด้วย 5 ด้านคือ 1.การสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจกิจใหม่ 2.สร้างระบบคมนาคมที่ทันสมัย 3.สร้างโคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์ 4.โคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารป้อนโลก 5.การแก้ไขปัญหาที่ประชาชนพบเจอมาก คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ และ ยูเนสโกรูท ก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโคราชให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์
นายสุวัจน์ กล่าวว่าจังหวัดนครราชสีมาถือเป็นจังหวัดเดียวที่เป็น ดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก ที่มีพื้นที่มรดกโลกในจังหวัดเดียว 3 แห่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของจังหวัด ซึ่งน่าจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ ในอนาคตหากมอเตอร์เวย์สร้างสำเร็จก็จะกลายเป็นการคมนาคมที่จะพานักท่องเที่ยวมาที่จังหวัดนครราชสีมามากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่มรดกโลก อีกทั้งในเดือนหน้ากำลังจะมีการประกาศเป็นอุทยานธรณีโลก เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการจังหวัดนครราชสีมาจะเป็นจังหวัดเดียวในประเทศที่ได้รับ 3 มงกุฎของยูเนสโก คือ มีทั้งมรดกโลก (World Heritage) พื้นที่สงวนชีวมณฑล (Biosphere Reserve) และอุทยานธรณีโลก (Global Geopark) อยู่ภายในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน ซึ่งจะเป็นรากฐานให้จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวแบบอินเตอร์
“จังหวังนครราชสีมา จะเป็นเมืองที่ 4 ของโลก ต่อจาก ประเทศอิตาลี เกาหลีใต้และจีน หากทำสำเร็จ จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลจากการท่องเที่ยว ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายสุวัจน์กล่าว
ยูเนสโกรูทหรือถนนยูเนสโกเริ่มต้นจากการเดินทางสำรวจเส้นทาง ไปยังพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพยาเย็นเขาใหญ่ ชมป่าดงดิบที่สมบูรณ์ของมรดกโลกเขาใหญ่ บ้านคลองปลากั้ง ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ลุยป่า ดูความสมบูรณ์ ของป่าสะแกราช ซึ่งเป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช อำเภอวังน้ำเขียว ชมป่าดึกดำบรรพ์และต้นไม้อายุกว่า 600 ปี จากนั้นเดินทางต่อไปชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินซากดึกดำบรรพ์และไดโนเสาร์พร้อมด้วยเบื้องหลังงานวิจัยที่พื้นที่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา
นายสุวัจน์ระบุว่า เมื่อเรามีสถานที่ที่เป็นสามมงกุฎแล้ว การพัฒนาเส้นทางที่เชื่อมโยงสามมงกุฎของยูเนสโกไว้ด้วยกัน ให้เป็น ยูเนสโกรูท หรือถนนยูเนสโก ที่มีโครงสร้างถนนอยู่แล้ว เพียงแต่มาปรับปรุงเสริมแต่ง ให้มีห้องน้ำสะอาด ร้านอาหาร ไร่ไวน์ ออนเซ็น ร้านขายของที่ระลึก และปรับปรุงผิวจราจรให้ดี ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนการท่องเที่ยวแบบต่างประเทศ และสร้างรายได้ให้ทัองถิ่น
เมื่อถามว่าหากโครงการยูเนสโกรูทสำเร็จ จะนำเงินเข้าประเทศได้ปีละเท่าไหร่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ก่อนเกิดโควิดประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2 ล้านล้านบาท หากในแนาคตเราสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เท่ากับจำนวนประชากรคือ 70 ล้านคน คนไทยหนึ่งคน ต้อนรับนักท่องเที่ยวหนึ่งคน เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวมากกว่าจำนวนประชากร หากทำตามนโยบายภายในสี่ปี จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 5 ล้านล้านบาท การมีย่านท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้นจะทำให้เราดึงดูดนักท่องเที่ยวไว้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
