“ประวิตร” เปิดใจบนเวทีระดมทุนพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 ถ้าปชช.ไม่เลือกพร้อมกลับบ้าน ยันสัมพันธ์ 3 ป.ไม่มีอะไรแยกจากความเป็นพี่น้องได้แม้การเมืองไปคนละทาง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวเปิดใจแบบ Exclusive ในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ที่ผ่านมา คำว่า ไม่รู้ ของตน คือไม่รู้จริงๆ แต่คนที่รู้อยู่รอบตัวตนมากมาย จึงต้องนำความรู้จากคนรอบตัวมาใส่ตนให้มาก จนตอนนี้กลายเป็น “รู้แล้ว” วันนี้อยากจะถามอะไรก็ถามเลย เพราะวันนี้ตนเป็นตัวของตัวเอง
ส่วนกิจวัตรประจำวันในช่วงที่เป็นทหารกับนักการเมืองแตกต่างกันหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แตกต่างกันมากแต่แรกตนไม่ได้ตั้งใจจะมาเล่นการเมือง แต่สถานการณ์บังคับให้ตนมารับเรื่องการเมือง เพิ่งในช่วงที่ตนรับราชการเป็นผู้บัญชาการทหารบกมีผู้เชิญไปรับตำแหน่งรมว.กลาโหม ดำรงตำแหน่ง 3 ปี ก่อนจะมีโอกาสได้เข้ามาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนไม่ค่อยทราบว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกับนักการเมืองกว่า 10 ปีก็ทำให้พอทราบว่าเป็นอย่างไร ยืนยันตนเคารพทุกคน ต่อชีวิตการทำงานของตนเองผ่านศึกสงครามมามากมาย แต่พยายามทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อกองทัพ และประชาชนมาโดยตลอด
เมื่อถามว่าชีวิตประจำวันพล.อ.ประวิตร ชอบทำอาหารใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนทำอาหารมาโดยตลอดอยู่แล้วเรียกได้ว่าทำเลี้ยง 3 ป. มาตลอด รวมถึงทำให้กองทัพ ส่วนตัวเห็นว่าทำผัดซีอิ๊วอร่อยสามารถเปิดร้านขายได้รวมถึงเมนูข้าวหน้าไก่ อร่อยขนาดที่ร้านดังก็สู้ไม่ได้ ส่วนความสัมพันธ์ 3 ป. นั้น อยู่ด้วยกัน 3 คนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ตน เป็นผบ.ร้อย ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อประเทศชาติ และกองทัพมาโดยตลอด
เติบโตกันมาก็เลย กระทั่งตนเป็นผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นแม่ทัพภาค 1 และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อตนออกจากดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกพลเอกประยุทธ์ก็เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 พล.อ.อนุพงษ์เป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. ส่วนตนเองดำรงตำแหน่งเป็นรมว.กลาโหมตนเคยอยู่บ้านเดียวกันนอนห้องเดียวกัน 3 คนรวมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพล.อ.เช่นเดียวกัน จึงเรียกได้ว่ามีความสนิทสนมเป็นกันเองอย่างที่อย่างน้อง ไม่มีอะไรที่แยกจากกันได้จากความเป็นพี่เป็นน้อง นักการเมืองจะไปคนละทาง
แต่ก็แยกเฉพาะการเมือง ส่วนเคล็ดลับในการเอาใจลูกน้องคืออะไร เอามาใช่กับการเมืองได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สิ่งที่ตนใช้มาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ คือความจริงใจ ทำอะไรก็จะบอกโดยไม่โกหกพูดตรงไปตรงมา ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอดจึงฝากของทุกคนว่าตนตั้งใจและจริงใจต่อทุกคนไม่ว่าใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงพี่น้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ว่าพูดอะไรไปนั่นคือคำพูดจากใจของตน
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า สำหรับสิ่งที่อยากจะแก้ไขที่สุดคือเรื่องปัญหาความยากจนทั้งชาวนาชาวไร่เกษตรกร คนหาเช้ากินค่ำ เป็นกลุ่มที่เราต้องดูแลให้อยู่ให้ได้เพื่อให้ประเทศก้าวหน้าต่อไป เมื่อถามถึงฮีโร่ในดวงใจของ พล.อ.ประวิตร ตอบด้วยความมั่นใจว่าคือ คุณแม่ของตนที่สามารถเลี้ยงลูกชาย 5 คน ได้ดีหมดทุกคน และมีความสุขทุกวันนี้มีความเจริญรุ่งเรืองทุกคนมีอาชีพที่ดีความเป็นอยู่ที่ดีทุกคน
ซึ่งวันนี้ถือว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ถ้าถามว่าผมพร้อมไหม ผมก็ต้องพร้อม แต่จะได้หรือไม่ได้อยู่ที่ประชาชน ถ้าประชาชนเลือกผมก็พร้อมและยินดีที่จะทำ แต่ถ้าไม่เลือกผมก็กลับบ้าน” ในช่วงท้ายพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า”วันนี้รู้แล้ว พร้อมแล้ว ผมพร้อม พร้อมที่จะเป็น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
