fbpx
Home
|
ข่าว

รบ. แถลงมาตรการช่วยปชช. จากกรณียูเครน – รัสเซีย

Featured Image
ทีมเศรษฐกิจ แถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย

 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์​ รองนายกรัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พลังงาน​ พร้อมด้วย นายอาคม​ เติมพิทยาไพสิฐ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและส่วนที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย​

 

 

โดยนายสุพัฒนพงษ์​ กล่าวว่า​ วิฤกติ​นี้ยังไม่หมดโดยรัฐ​บาลได้ทำสุดความสามารถเพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์​การแพร่ระบาด​โควิด-19 จนนำไปสู่การเปิดประเทศ​ แต่เมื่อช่วงปลายปีมีสัญญาณความขัดแย้งยูเครน​-รัสเซีย​ ทำให้ราคาพลังงาน​ปรับตัวสูงขึ้น​ มีการกีดกัน​ด้านการค้า​ มี​การแบ่งขั้ว​อำนาจ โดยนายสุพัฒนพงษ์​ มองว่า​ สถานการณ์นี้จะยังยืดเยื้อ​ไม่จบโดยเร็ว​ เกิดวิกฤติ​ซ้อนวิกฤต พร้อมเฝ้าติดตาม​สถานการณ์​ต่ออีก​ 3 เดือน​ โดยการออก 10 มาตรการ​ช่วยเหลือประชาชนในแต่ละกลุ่ม​ ให้สอดคล้อง​สถานการณ์​เพื่อประคับประคอง​เสถียรภาพ​ด้านเงินการคลัง​ เน้นดูแลช่วยผู้มีรายน้อย​ และผู้ใช้แรงงาน

 

 

ด้านนายอาคม​ เติมพิทยา​ ไพสิฐรัฐ​ มนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ย้ำว่า​ เรายังพยายามรักษาสมดุลให้เศรษฐกิจเดินหน้าควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19​ ซึ่งในปี 2564 การค้าระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าและการส่งออก​ ได้รับผลกระทบ​ โดยเฉพาะปี 2563 ต่อเนื่องปี 2564​ ซึ่งปีนี้คาดว่า​ การปรับตัวด้านเศรษฐกิจน่าจะขยายตัว 5-10% เปิดการขนส่งสินค้าข้ามแดนบริเวณประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้รับผลกระทบ​

 

 

นายอาคม​ ระบุว่า​ เสถียรภาพมีอยู่ 2 ด้าน คือด้านการคลังและการเงิน คือ รายได้ของภาครัฐโดยเฉพาะส่วนราชการ​ ซึ่งดูได้จากฐานะทางการคลังของรัฐบาล​ ซึ่ง 5 เดือนแรกของปี​ (ต.ค.64-ก.พ.65)​ รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง​ 901,414 ล้านบาท​ มีการเบิกจ่าย​งบประมาณทั้งสิ้น​ 1,429,194 ล้านบาท​ โดยรัฐบาลได้กู้เงินชดเชยการขาดดุล ​394,465 ล้านบาท​ ส่งผลให้มีเงินคงคลังมีอยู่ 418,588 ล้านบาท แต่ยืนยันว่า​ เงินคงคลังที่เหลือยังมีเพียงพอในการใช้จ่าย​พร้อมมั่นใจว่าการประมาณการรายได้จากการจัดเก็บภาษีจะเป็นไปตามเป้า​

 

 

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง​ 2เดือนแรกของปี​2565​ สูงขึ้นจากราคาพลังงาน​ ที่มีมาตรการ​ช่วยเหลือ​จากภาครัฐ​ ทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว​มากนัก​ ส่วนอัตราเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ​ ย​ังอยู่ในระดับสูง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกได้  สำหรับสัดส่วน​หนี้​สาธารณะ​ต่อGDP เดือนม.ค.65​ อยู่ที่ร้อยละ59.9 ซึ่งยังอยถ่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้​ และตามกรอบวินัยการเงินการคลัง​ที่กำหนดไว้ร้อยละ​ 70​ โดยหนี้สาธารณะ​ส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินบาทและเป็นหนี้สาธารณะ​ระยะยาว

 

 

ส่วนการว่างงานไตรมาส 4 ปี 2564 ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.6 จากการฟื้นตัว เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องตากสถานการณ์โควิด-19 และขณะนี้มี ไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศ 2.4 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจได้ และตั้งเป้าว่าจะจัดเก็บภาษีรายได้ได้มากขึ้นจากธุรกิจดิจิทัล

 

ด้านปลัดกระทรวงพลังงานชี้แจงสถานการณ์พลังงานว่าประเทศไทยมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปแช้ว 30,000 ล้านบาท และจะพยายามตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาท จนถึง 30 เมษายนและหลังจากนั้น จะช่วยออกให้ครึ่งหนึ่งของราคาหากเกิน 30 บาท ซึ่งกอลทุนน้ำมันเขื้อเพลิงจะกู้ยืมเงินเข้ามา และจะยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมเพราะมีกำลังซื้อ ซึ่งมีปริมาณอยู่ที่ 1.4 ล้านลิตรต่อวัน  ส่วนแนวทางการบริหารราคาก๊าซแอลพีจี ตรึงราคามาแล้ว 2 ปีจากถังละ 363 บาทเหลือถังละ 318 บาทตรึง ซึ่งในปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ 463 โดยใช้เงินไปแล้ว 28,800 ล้านบาท ซึ่งวันที่ 1 เมษายนนี้จะขอปรับขึ้น 333 บาทต่อถัง ส่วนในเดือนพฤษภาคมปรับเป็น 363 บาทต่อถัง แต่สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้ส่วนลดเดือนละ 33 บาท โดยใช้งบกลาง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube