fbpx
Home
|
ข่าว

“วิโรจน์” ยื่นผู้ว่าฯ กทม.เปิดข้อมูลโครงการรถไฟฟ้า

Featured Image
“วิโรจน์” ยื่นผู้ว่าฯ กทม.เปิดข้อมูลโครงการรถไฟฟ้า รับกังวลต่ออายุสัมปทาน ชี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะตีเช็คเปล่า ขอชาวกรุงร่วมกันเรียกร้อง

 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือถึงผู้ว่า กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาค่ารถไฟฟ้าแพง เพราะตอนนี้มีหลายคนเสนอแนะทางแก้ไขปัญหามากมาย แต่ทางเลือกต่างๆ นั้น
ยังไม่ได้อยู่บนพื้นฐานที่เป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงในการแก้ปัญหาที่เป็นปัจจุบัน และจุดเริ่มในการแก้ไขปัญหาคือการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด

 

พร้อมยอมรับปัญหานี้เป็นโจทย์ใหญ่ของผู้ว่า กทม. และโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล และคน กทม. รวมถึงคนไทย เพราะเงินที่ใช้ก่อสร้างทั้งหมดเป็นเงินภาษีของคนไทย แต่คน กทม.จะได้รับผลกระทบมาก และจุดยืนในการต่อสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้นตราบใดที่ยังไม่มีรายละเอียดจะไม่ต่ออยู่แล้วผู้ว่า กทม.ห้ามเซ็นโดยเป้าหมายปลายทางต้องการเห็นตั๋วร่วม-ค่าโดยสารร่วมที่เกิดขึ้นคือเก็บค่าโดยสารซ้ำซ้อน

 

หากรัฐบาลดันเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)การต่อสัมมปทาน ตนก็ขอตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะดันอย่างไร เมื่อประชาชนยังไม่ทราบรายละเอียดจะเป็นการบังคับให้ประชาชนเซ็นสัญญาโดยปิดรายละเอียด เชื่อเป็นไปไม่ได้ที่จะตีเช็คเปล่า ขอ ชาว กทม.และผู้บริโภคร่วมกันเรียกร้อง

 

ทั้งนี้ นายวิโรจน์จะสรุปรวมนโยบายการบริหารทั้งหมด ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ แต่รอไม่ได้เรื่องปัญหาค่ารถไฟฟ้าแพง และกังวลว่าการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าจะเข้าก่อนการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ก่อนจะตั้งคำถามว่า เพียงสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการทราบรายละเอียดโครงการจะไม่ให้รู้เลยหรอจะต่อทั้งที่ประชาชนไม่รู้อะไรเลยไม่แปลกหรอ

 

สำหรับเอกสารหากได้รับจาก กทม. จะนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะชาว กทม.มีสิทธิที่จะรู้คือรายละเอียดของสัญญา หากไม่รู้รายละเอียดจะแก้ปัญหายังไง หากจะขีดคาดดำเนื้อหาบางอย่างทางเทคนิคก็พร้อมยอมรับได้

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube