fbpx
Home
|
ข่าว

“มงคลกิตติ์” จี้ รมว.อุตฯโรงงานปล่อยน้ำเน่าลงคลอง

Featured Image
“มงคลกิตติ์” จี้ รมว.อุตฯ ดูลูกน้องรับส่วยให้โรงงานปล่อยน้ำเน่าลงคลอง หวั่นกระทบประชาชน

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและ หัวหน้าพรรคไทยศริวิไลย์ รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จตุจักร-หลักสี่ ทั้งปัญหาไฟส่องสว่าง บริเวณทางเดิน ปัญหาขยะและน้ำเน่าเสียในชุมชน จึงฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในการแก้ปัญหาดังกล่าว รวมทั้งปัญหาโครงการบ้านมั่นคง พื้นที่ชุมชนคลองเปรมประชากรหลักสี่ที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบ

 

เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่ามีการทุบบ้านเก่า เพื่อสร้างบ้านมั่นคง แต่การดำเนินการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบและมีความล่าช้า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนต้องเสียค่าเช่าก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ตามโครงการบ้านมั่นคงตั้งแต่ปี 2560 จึงฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแก้ปัญหา เนื่องจากกระทบกับค่าใช้จ่ายของประชาชนโดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้

 

นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังฝากถึงพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังได้รับการร้องเรียนว่าในพื้นที่เขตจตุจักร- หลักสี่ มีการลักลอบเล่นการพนัน เปิดตู้ม้า ตู้สล็อตและมีนักการเมืองและตำรวจในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ขณะเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ ยังระบุหลังมีข่าวผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมลงมาติดตาม เพราะประชาชนได้รับผลกระทบเนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียลงคลองเปรมประชากรส่งผลด้านสิ่งแวดล้อม

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันน้ำในคลองเน่ามาก เน่าจนประชาชนทนไม่ไหว แม้แต่ตัวเงินตัวทองยังทนไม่ไหว และนอกจากตัวเงินตัวทองจะได้รับผลกระทบจากน้ำเน่าแล้ว ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องหมูแพง ตนก็กังวลว่าประชาชนจะหันมาบริโภคตัวเงินตัวทองแทน”

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศิวิไลย์ ยังระบุถึงการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคการเมือง ที่มีผู้ช่วยหาเสียงเกิน 20 คน ว่า เข้าข่ายผิดกฎหมาย และหากรัฐมนตรีหรือใครที่จะไปช่วยหาเสียง ก็ขอให้ลงทะเบียนเป็นผู้ช่วยหาเสียงด้วย ให้ถูกต้อง และการหาเสียง ก็กำหนดให้พรรคการเมืองเท่าเทียมกัน โดยให้งบประมาณในการหาเสียงไม่เกิน 1,500,000 บาท

โดยพรรคพลังประชารัฐที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่ไปช่วยผู้สมัคร ในเขตหลักสี่-จตุจักร ต้องไปลงเป็นผู้ช่วยหาเสียง และสลับคนเก่าออกไปก่อน พร้อมรับเลี้ยงวันละ 315 บาท แต่ในเมื่อเป็นรัฐมนตรีก็ไม่สามารถรับได้ ดังนั้น จึงอาจเข้าขายผิดกฎหมาย ขอให้ระมัดระวัง และรอบคอบ

 

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองจัดเวทีปราศรัยนั้น ประชาชนส่วนกลางไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง เช่น พรรคการเมืองหนึ่งจัดปราศรัย พรรคการเมืองอื่นต้องสามารถเข้าไปหาเสียงได้ ต้องไม่มีการกัดกัน เพราะไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการกีดขวางการเลือกตั้ง หรือหากมีการเกณฑ์คนมาก็ต้องรวมเข้าไปในงบหาเสียงด้วย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube