fbpx
Home
|
ข่าว

ฉายารัฐบาล “ยื้อยุทธ์” นายกฯ “ชำรุดยุทธ์โทรม”

Featured Image
สื่อทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล “ยื้อยุทธ์” นายกฯ “ชำรุดยุทธ์โทรม” ขณะ พล.อ.ประวิตร “รองช้ำ” ด้านอนุทิน “ว๊ากซีน” และ “จุรินทร์” นายกฯบางโพล สำหรับวาทะแห่งปี “นะจ๊ะ”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายารัฐบาล และ รัฐมนตรี ประจำปี 2564 ซึ่งยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติ และได้มีมติตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และ วาทะแห่งปี ประจำปี 2564 ร่วมกันดังนี้

– ฉายารัฐบาล “ยื้อยุทธ์”
ภาพของรัฐบาล ที่ยื้อแย่งกันเองทั้งในส่วนของอำนาจ และ ตำแหน่ง โดยไม่สนใจประชาชน และ การเดินหน้าประเทศ ถูกมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม และ มองการดำรงอยู่ของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาล จะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไป ไม่ว่าจะมีการชุมนุมขับไล่ไสส่งอย่างไร ใครไม่อยู่ แต่พล.อ.ประยุทธ์อยู่

– ฉายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ชำรุดยุทธ์โทรม”
การบริหารราชการแผ่นดินตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ถือได้ว่า เป็นผู้ที่รับบทหนักที่สุดแห่งปี ถูกมองว่าล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารราชการ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง ถูกโจมตีรอบด้าน แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังอยู่ในตำแหน่งได้ แต่ก็ทรุดโทรม เสื่อมสภาพไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ

– ฉายา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “รองช้ำ”
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พี่ใหญ่ในตระกูล 3 ป.อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประสบกับเรื่องช้ำๆ เจ็บซ้ำๆ มาโดยตลอด หลายสถานการณ์ต้องตกเป็นรอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องการเมือง โดยเฉพาะปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่เกิดความแตกแยกอย่างหนัก สะเทือนถึงพี่น้องอีก 2 ป สั่นคลอน ” 3ป Forever ” ซ้ายก็น้องรัก ขวาก็ลูกน้องที่รัก หักใจเลือกใครไม่ได้ สุดท้ายต้องยอมแบกความเจ็บช้ำไว้คนเดียว

– ฉายา รองฯ อนุทิน ชาญวีรกูล “ว้ากซีน”
ล้อมาจากคำว่า “วัคซีน” ภาพที่ผู้คนชกต่อยยื้อแย่งวัคซีน บุคลากรทางการแพทย์ ดาหน้าออกมาเรียกร้องวัคซีนชนิด mRNA ผู้คนว้าก โวย เหวี่ยง ตำหนิการจัดหาและให้บริการวัคซีน ที่ถูกเลื่อนไม่มีกำหนด เพราะวัคซีนไม่มาตามนัด ไม่ว่านายอนุทิน จะชี้แจงอย่างไร กระแสตอบรับ โดยเฉพาะใน Social Media ไม่มีคำว่ารักษาน้ำใจ หรือ เห็นถึงความพยายามในการแก้ปัญหาภาวะวิกฤต จนนายอนุทิน ต้องออกโต้ตอบอย่างดุเดือด ผ่านสื่อและโซเชียลทุกครั้งที่มีโอกาส

 

-ฉายา รองฯ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ “นายกฯ บางโพล”
แม้ปีนี้ยังไม่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง แต่หัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรค แสดงความพร้อมประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรี หนึ่งในนั้น คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีผลสำรวจความคิดเห็น หรือ โพล บางสำนักเท่านั้น ที่ต้องการให้นายจุรินทร์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เปรียบได้กับการเป็นนายกรัฐมนตรีแค่บางโพล ไม่ใช่ทุกโพล

 

– ฉายา รองฯ สุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ “มหาเฉื่อย 4D”

ตลอดการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ยังแสดงฝีมือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ไม่เด่นชัด เช่น ปัญหาราคาน้ำมันแพง จนสมาคมรถบรรทุกออกมาประท้วงและหยุดวิ่ง ประชาชนกลายเป็นประชาจน เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แม้จะผุดโปรเจ็คต่างๆ ก็ถูกมองเป็นนโยบายขายฝัน ด้วยเอกลักษณ์ เดินถือแก้วกาแฟชิลๆ มอบนโยบายเหมือนบรรยายธรรม โดยเฉพาะนโยบาย 4D ท่องจนเป็นคาถาติดปาก จึงได้รับฉายานี้ไป

 

-ฉายา รมว.สุชาติ ชมกลิ่น “สุชาติ ชมเก่ง”
เกือบทุกครั้งในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อพูดถึงนโยบายของรัฐบาล หรือ งานในความรับผิดชอบ นายสุชาติมักจะขึ้นต้นประโยค ด้วยการชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคของตนเอง จะถูกยกยอปอปั้นอยู่เสมอ แถมยังติดสอยห้อยตามการลงพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นรัฐมนตรีหนึ่งเดียว ที่ขันอาสาออกหน้ารับคำท้า ขึ้นชกมวยคาดเชือก กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แทนนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาท้าว่า ใครแพ้ลาออก และ หากไม่รับคำท้าไม่ใช่ลูกผู้ชาย

 

– ฉายา รมว. ศักดิ์สยาม ชิดชอบ “สายขม นมชมพู”
ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่คาราคาซังมานานข้ามปี ยังไม่มีข้อยุติ ผลพวงจากภาระหนี้สินก้อนใหญ่ ยังหาทางออกไม่ได้ กลายเป็นเรื่องขมคอของหลายหน่วยงานภาครัฐ ซ้ำเจ้าตัวยังมีภาพหลุด ที่ ส.ส.พรรคเล็กขุดมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อมโยงคลัสเตอร์โควิด-19 สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ก่อนออกมาชี้แจงว่า ภาพดังกล่าวแค่สะท้อนชีวิตหนุ่มโสด ร้องคาราโอเกะ ดื่มนมชมพู หาความสุขหลังเลิกงาน ไม่ใช่ชายเสเพล ใช้ชีวิตประมาท จนเกิดคลัสเตอร์การระบาด

 

– ฉายา รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ “ดีลล่มระดับโลก”
การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศไทย อีเวนต์ที่จะปลุกให้ทั่วโลกหันกลับมามองประเทศไทย และ ฟื้นเศรษฐกิจอีกครั้ง คือ
งานเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ออกตัวการันตี Lisa วง Black Pink ศิลปินเกาหลี สัญชาติไทย ที่โด่งดังระดับโลก ตอบรับมาร่วมงาน ก่อนที่ดีลจะล่มไม่เป็นท่า เมื่อต้นสังกัดออกแถลงการณ์ดับฝัน ทำให้รัฐบาลเสียเครดิต แม้แต่โครงการ Sandbox ก็เกือบจะเป็น Sadbox ต้องลดพื้นที่ให้เหลือแค่จังหวัดภูเก็ต เพราะสถานการณ์โควิด-19 ปะทุ

 

วาทะแห่งปี 2564 “นะจ๊ะ” เป็นคำพูดติดปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แม้จะเป็นคำสามัญธรรมดาที่ใช้ทั่วไป แต่กลายเป็นคำไม่ธรรมดา เมื่อออกจากปากของผู้นำประเทศในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ที่ประชาชนสิ้นหวัง มีผู้คนล้มตายข้างถนน ตกงาน ขาดรายได้ จากวิกฤตโควิด-19 แม้นายกรัฐมนตรีเลือกใช้คำดังกล่าว เพื่อที่จะลดอุณหภูมิของสถานการณ์ลง แต่สังคมสะท้อนกลับให้เห็นผ่านเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ว่าเป็นการใช้คำไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ กระทบกระเทือนจิตใจผู้คน โดยเฉพาะการพูดหลังการประชุมวัคซีนและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ตึกภักดีบดิทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่ประชาชนต่างรอคอยการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณาข้อเสนอมาตรการล็อกดาวน์ กทม.และปริมณฑล สะท้อนภาวะความเป็นผู้นำ ที่ล้มเหลวในการสื่อสารเมื่อเกิดภาวะวิกฤติ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube