fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ ห่วงน้ำท่วมจ่อลงดูชัยนาทชม”ลิซ่า”ไม่ลืมไทย

Featured Image
นายกฯ เตรียมลุยลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมชัยนาท ก่อนควง “เสี่ยเฮ้ง” บุกถิ่นชลบุรี ติดตามโครงการ “Factory Sandbox”แหลมฉบังศุกร์นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ มีภารกิจตรวจเยี่ยมน้ำท่วมที่ จ.ชัยนาท พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อเตรียมรับน้ำเหนือไหลหลากและวางแผนเพื่อป้องกันน้ำท่วมต่อไป

สำหรับกำหนดการของนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรีออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากพล.ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามกีฬาเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ก่อนเดินทางไปยังสำนักงานชลประทานที่ 12 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทกล่าวต้อนรับ จากนั้นเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรรายงานสถานการณ์ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายและข้อสั่งการ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากสำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท ไปยังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือหลากและวางแผนป้องกันพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ก่อนเสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ในวันที่ศุกร์ที่ 17 ก.ย. นายกรัฐมนตรีมีภารกิจตรวจราชการจังหวัดชลบุรี โดยในเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะเดินทางไปที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด(แหลมฉบัง) ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อตรวจติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox ของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและในฐานะส.ส.ชลบุรี ให้การต้อนรับ โดยโอกาสนี้นายกรัฐมนตรี จะกล่าวมอบนโยบาย พร้อมตรวจเยี่ยมการฉีดวัคชีนโครงการ Factory Sandbox ก่อนพบปะหารือร่วมกับนายกสมาคมนักลงทุนชาวญี่ปุ่นและผู้บริหารสมาคมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง

นายกฯ  สั่งการ มหาดไทย รัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนน้ำท่วม  ขอบคุณทุกหน่วยงานเร่งแก้โควิด จนสถานการณ์คลี่คลาย ชม “ลิซ่า” ไม่ลืมวัฒนธรรมไทย

นายธนกร วังคงบุญชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
มีข้อสังการว่า แจ้งคณะรัฐมนตรีให้ทราบว่า พลิกโฉมประเทศถือเป็นวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี ข้อให้ส่วนราชการช่วยดำเนินการทุกมิติ ทั้งเกษตร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เพื่อเดินหน้าลดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยกันสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ เพื่อส่งออกตามแนวเศรษฐกิจบีซีจี ให้ความสำคัญนวัตกรรมท้องถิ่น สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วม ในหลายพื้นที่ เกิดจากอิทธิพลมรสุม โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม เตรียมแผนรองรับน้ำท่วมออกไปช่วยเหลือประชาชน และมอบหมายรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงลงพื้นที่ และให้พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกไปตรวจเยี่ยมประชาชน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของวัฒนธรรม โดยมีเด็กไทย และศิลปินไทย โดยเฉพาะ ลิซ่า แบล็กพิงก์ ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังไม่ลืมวัฒนธรรมไทย โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้คนไทยที่มีความสามารถอย่างเต็มที่

โดยนายกรัฐมนตรี ยังพอใจในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สถานการณ์ผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลง โดยเฉพาะ กทม.และพื้นที่ทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรี จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือกันทำใหสถานการณ์คลี่คลายไปในสถานการณ์ที่ดีขึ้น

 

ครม.อนุมัติงบกลาง 3,851 ล้านบาท ดำเนินโครงการป้องกันน้ำท่วม 2564 และบรรเทาปัญหาภัยแล้ง 2564/2565 จำนวน 3,378 รายการ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบกลางจำนวน 3,851.2251 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัย ปี 2564 และบรรเทาปัญหาภัยแล้งปี 2564/2565 จำนวน 3,378 รายการ

หน่วยรับงบประมาณ คือ 3 กระทรวง 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย 9 จังหวัด (กำแพงเพชร เชียงราย นครศรีธรรมราช พะเยา พัทลุง พิจิตร ยโสธร สระบุรี หนองคาย) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 33 จังหวัด สำหรับรายการโครงการสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัย ปี 2564 และบรรเทาปัญหาภัยแล้งปี 2564/2565 อาทิ โครงการ ซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและการเก็บกักน้ำ 1,028 รายการ วงเงิน 1,462.44 ล้านบาท โครงการขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและการเก็บกักน้ำ 541 รายการ วงเงิน 540.33 ล้านบาท โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน 334 รายการ วงเงิน 538.59 ล้านบาท โครงการเติมน้ำใต้ดินระดับตื้นทั่วประเทศ 72 โครงการ วงเงิน 33.32 ล้านบาท โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค 120 รายการ วงเงิน 46.88 ล้านบาท เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงแผนงาน/โครงการ ทั้ง 3,378 รายการว่า ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2564 เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในฤดูฝนเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้งปี 2564/2565 ในพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวังที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยและพื้นที่เฝ้าระวังที่อาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ซึ่งแผนงาน/โครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้ ต้องสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน และไม่เกินมกราคม 2565 ด้วย

 

ครม. ไฟเขียวมาตรการภาษี เอกชนซื้อชุดตรวจ ATK ให้พนักงาน/ลูกจ้าง นำมาลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) เพื่อใช้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้าง สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50 หรือ 1.5 เท่า ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึง 31 มีนาคม 2565 นี้ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ หลังวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ศบค. ได้ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านนวด (เฉพาะนวดเท้า) และสนามกีฬา สามารถเปิดให้บริการได้ ประกอบกับในที่ประชุม ศบค. ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 10 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางตามนโยบาย ศบค. ที่จะเพิ่มการตรวจ ATK ในประชากรโดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน กระทรวงการคลังจึงได้ออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจ โควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้มีส่วนร่วมกับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 ช่วยบรรเทาภาระภาษี สำหรับประชาชน ก็จะช่วยป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยลดผลกระทบต้องเศรษฐกิจและสังคมด้วย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube