รัฐบาลยันเร่งฉีดวัคซีน 70% ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ ฉีดแล้วกว่า 20 ล้านโดส ชี้แนวโน้มดีขึ้นหายป่วยแซงหน้าผู้ติดเชื้อ วอนเชื่อมั่นระบบสาธารณสุข ขอฝ่ายค้านเพลาๆ การเมืองบ้าง
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ ยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้วันนี้ 22,086 คน สูงกว่าจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ ซึ่งจากการประเมินยอดผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประมาณ 159,000 คน เฉลี่ยอยู่ที่วันละสองหมื่นกว่าคน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี สะท้อนความสำเร็จ เป็นกำลังใจที่สำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งผู้ป่วยทั่วประเทศที่หายกลับบ้านสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.) อยู่ที่ 550,714 คน ในขณะที่ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 767,088 คน ยอดผู้ที่อยู่ระหว่างรักษาอยู่ที่ประมาณ 2 แสนคน ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ อย่ามองแค่ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น เพราะยอดผู้ป่วยที่รักษาหายก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนศักยภาพสาธารณสุขของไทย ก่อให้เกิดพลังในการร่วมกันต่อสู้ภัยโควิด
อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ได้คาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงสุดในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะมีการตรวจเชิงรุกมากขึ้นโดยใช้ Atk โดยเฉพาะใน กทม. ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเพิ่มสถานพยาบาลและเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาล ให้ทุกโรงพยาบาลรับผู้ป่วยเฉพาะสีเหลืองและสีแดง ส่วนสีเขียวขอให้รักษาตัวที่บ้านด้วยระบบ Home Isolation และศูนย์พักคอย Community Isolation ซึ่งสำหรับ Community Isolation ของ กทม. มีทั้งหมด 65 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 8,625 คน อยู่ระหว่างการเพิ่มศูนย์ฯ ในต่างจังหวัดตามจุดต่างๆ ให้รองรับผู้ป่วยได้มากที่สุด และเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากรไทยภายในสิ้นปีนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อไป อีกทั้งเร่งขับเคลื่อนมาตรการเยียวยาต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวนทั้งสิ้น 29 จังหวัด พร้อมฝากไปถึงฝ่ายค้านด้วยว่า ขอให้เพลาๆ การเมืองลงบ้าง เอาเวลามาช่วยกันแก้ปัญหาให้กับประชาชนดีกว่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
