บุคลากรแพทย์ หมอไม่ทน ยื่น สธ.เรียกร้องความโปร่งใสกระจายไฟเซอร์ ด้านโฆษก สธ.ยัน 7 แสนโดส ส่งให้บุคลากรด่านหน้า
เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ จากกลุ่ม หมอไม่ทน , ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect , สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (I FMSA-Thailand) , DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร , นิสิตนักศึกษาแพทย์เพื่อประชาธิปไตย และภาคีเทคนิคการแพทย์ เข้ายื่นหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเรียกร้องให้เกิดความโปร่งใสในการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ลอตแรกที่มาถึงประเทศไทย
โดยนายแพทย์ปุณณพัฒน์ ทวีพรภูริพงศ์ ตัวแทนเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ กล่าวว่าได้รวบรวมรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน 62,000 รายชื่อผ่านแคมเปญchange.org /VaccineWeTrust รวมทั้งที่แสดงพลังผ่าน #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร โดยมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อที่ต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติ คือ
1. นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลักให้ประชาชนคนไทยทุกคน
2.ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคลากรฯ ได้รับวัคซีนAstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสจำนวนเท่าใด และยังเหลือบุคลากรฯที่ยืนยันจะรับPfizer เป็นจำนวนเท่าใด
3. นำข้อมูลสำคัญที่จะพิสูจน์ความโปร่งใสกลับมาบรรจุในระบบ Cold-chain tracking นั่นคือเส้นทางการกระจายวัคซีน โดยระบุยี่ห้อและลอตต่างๆของวัคซีน และเปิดให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เพื่อแสดงความรับผิดชอบของรัฐต่อประชาชน
4. มีความชัดเจนในการสื่อสารข้อมูลต่างๆ แก่ประชาชน ด้วยการรายงานความคืบหน้าในการจัดสรรวัคซีนพร้อมหลักฐานยืนยันอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและความไม่มั่นใจ
ด้านนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวหลังรับหนังสือว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญในปัญหาสุขภาพของบุคลากรทางการแพทย์ โดยช่วงเช้าวันนี้วัคซีนไฟเซอร์ ได้เดินทางถึงประเทศไทย การกระจายวัคซีนดังกล่าวขั้นแรกวัคซีนจำนวนไม่ต่ำกว่า 7 แสนโดสและจะถูกส่งต่อให้กับบุคลากรด้านหน้า และจัดลำดับความสำคัญลงมาเป็นกลุ่มเสี่ยง ,กลุ่มผู้สูงอายุ,กลุ่มคนตั้งครรภ์ตามลำดับ พร้อมยืนยันว่าการกระจายวัคซีนมีระบบที่ดีโปร่งใสตรวจสอบได้ และยืนยันต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์เพราะหากเจ้าหน้าที่บุคลากรด่านหน้าติดเชื้อระบบสาธารณสุขก็จะเดินหน้าต่อไม่ได้ ยืนยันไม่มีรายชื่อตกสำรวจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
