fbpx
Home
|
ภูมิภาค

นรข.นครพนมสกัดยิงรถขนไอซ์400 กิโล

Featured Image
นรข.เขตนครพนม สกัดยิงรถขนยาไอซ์ เกือบ 400 กิโล มูลค่าไม่ต่ำกว่า 365 ล้านบาท แหกด่านทิ้งรถหนี

พลเรือตรี จรัสเกียรติ ไชยพันธิ์ ผบ.นรข.นครพนม มอบหมายให้ นาวาเอก ณฐพัฒน์  ซื่อมงคล รอง ผบ.นรข.นครพนม, นาวาเอก ฤทธิ์ นาทวงศ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม แถลงการณ์ตรวจยึด รถยนต์เซฟโรเลต สีดำ ทะเบียน 1 ขท 9783 กทม. สีดำ ภายในบรรทุก ยาไอซ์ จำนวน 365 ห่อ บรรจุในแพคเกจ ถุงพลาสติกสีเขียวอ่อน มีตัวอักษรภาษาจีน น้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 365 กิโลกรัม มูลค่ากิโลกรัมละประมาณ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 365 ล้านบาท ส่วนคนขับรถยนต์ขนยาไอซ์ ทิ้งของกลางหลบหนีทัน อยู่ระหว่างการเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดี

โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ นรข. สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดลอตใหญ่ มาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามาทางเรือ ในพื้นที่ รอยต่อ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม กับ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อลำเลียงเข้ามาขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนลงพื้นที่ตรวจสอบ

จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยขับมุ่งหน้ามาตามเส้นทางจาก จ.มุกดาหาร กับ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จนกระทั่งถึงเขตพื้นที่ บ้านดอนสวรรค์ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าสกัดตรวจสอบ แต่คนขับพยายามขับรถหนีจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงติดตามไล่ล่าและใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์สกัดการหลบหนี ทำให้รถยนต์ดังกล่าวเสียหลักลงข้างทางชนต้นไม้ ก่อนที่คนขับจะวิ่งหลบหนีเอาตัวรอด เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบของกลาง ยาไอซ์บรรทุกมาในรถจำนวน 12 กระสอบ ปุ๋ย ตรวจนับได้ จำนวน 365 กิโลกรัม จึงตรวจยึดเป็นของกลาง มาตรวจสอบ เร่งขยายผลติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าของกลางยาไอซ์ดังกล่าว มีการลักลอบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว โดยในช่วงนี้สถานการณ์โควิดทำให้ทางชายแดนภาคเหนือมีการเข้มงวด ส่งผลให้ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบ ขนยาไอซ์เข้ามาทางชายแดนอีสาน เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงเป็นระยะทางยาว เป็นอุปสรรต่อการสกัดกั้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะช่วงนี้ จะมีการนำเข้าบ่อยครั้ง เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube