fbpx
Home
|
บันเทิงไทย

โอ๊ต วรวุฒิ เปิดใจครั้งแรก ยุติสถานะ สามี-ภรรยา กับ จีน่า ปิดฉากรักต่างวัย 21 ปี!

Featured Image
โอ๊ต วรวุฒิ เปิดใจครั้งแรก ยุติสถานะ สามีภรรยา กับ จีน่า ปิดฉากรักต่างวัย 21 ปี!

 

นักแสดงรุ่นใหญ่โอ๊ตวรวุฒิที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกกับข่าวปิดฉากคู่รักต่างวัยเหลือเพียงหน้าที่พ่อและแม่ของลูกผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มีพีเคปิยะวัฒน์และเบนซ์พรชิตาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าพี่โอ๊ตและภรรยาได้ยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาแล้วตอนนี้สถานะคืออะไร?

โอ๊ต : เป็นพ่อและแม่ของลูก

เห็นข่าวมาสักพักแล้วแต่พี่ก็ยังถ่ายรูปด้วยกันลงไอจีเต้นติ๊กต๊อกเป็นครอบครัวอยู่ก็คิดว่ามันคงเป็นข่าวเฉยๆแต่มันคือเรื่องจริง?

โอ๊ต : ต้องยอมรับว่ามันคือเรื่องจริงครับ

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเลยเหรอ?

โอ๊ต : จริงๆข่าวออกพฤษภาคมนะแต่เราเริ่มที่จะคุยกันจริงจังมากขึ้นแล้วสรุปของเราตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว

ปีแล้ว?

โอ๊ต : ใช่ครับ

วันที่เราทั้งคู่ตัดสินใจจะให้อิสระกันและกันวันนั้นอารมณ์มันเป็นยังไงทะเลาะไหม?

โอ๊ต : พี่ออกตัวนิดนึงการที่คุยวันนี้มันอาจจะมีผลกระทบถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้มานั่งคุยกับเราในวันนี้อันนี้เป็นเหตุผลในทางของพี่โอ๊ตฝ่ายเดียวซึ่งพี่คุยกับทางคุณจีน่าแล้วว่าโอเควันนี้เรามาออกรายการเราจะคุยประมาณนี้ได้แค่ไหนพี่ตอบแค่นั้นจะตอบเท่าที่จะตอบได้บรรยากาศในการคุยวันนั้นเป็นการคุยปกติธรรมดาใช้สติในการคุยกันคุยแบบเป็นเพื่อนกันไม่ได้ทะเลาะกันในการยุติความสัมพันธ์คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเองและตัวลูกด้วย

สำหรับตัวพี่เองคิดว่าเหตุผลหลักในการคืนอิสระให้กับอีกฝ่ายคืออะไร?

โอ๊ต : จริงๆมันไม่ได้มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูกในการที่เราจะมองเป้าหมายในชีวิตของเราต่างคนต่างมีทางของตัวเองเราคิดว่าตรงนี้เป้าของเรายังต่างกันอยู่เขาก็ยังมีเวของเขาอยู่เราก็มีเวของเราเวของเราอาจไม่ได้หวือหวาเหมือนกับที่เขาตั้งเป้าในทางเดินของเขาไว้มันก็เลยสวนทางกันในการดำเนินชีวิตเลิกกันแบบนี้ก็เลยง่ายกว่า

มันเป็นเรื่องความห่างของอายุด้วยไหม?

โอ๊ต : จะบอกว่าไม่สำคัญเลยไม่ได้นะมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะว่าในช่วงที่เราอายุวัยเดียวกับเขาเราก็คิดเหมือนกับเขานี่แหละเราอยากไปให้สุดในเส้นทางของเรามันห้ามไม่ได้พอมันมาถึงอายุที่มากขึ้น 50 กว่ามันรู้สึกว่าทางเรามันลงเขาแล้วมันเริ่มหาจุดสงบแล้วมีความสุขแบบนิ่งๆมันก็เลยสวนทางกันทางขึ้นกับทางลงแต่ว่าสิ่งนี้ไม่มีใครผิดใครถูก

ปีนี้พี่โอ๊ต 52 ถ้าเขาอายุน้อยกว่า 21 ปีก็คือ 30 ต้นๆเท่านั้นเอง?

โอ๊ต : ใช่ครับ

วันนั้นของเดือนมีนาคมปีที่แล้วบทสรุปคือ?

โอ๊ต : เราลดสถานะของการเป็นสามีภรรยาแล้วมาเป็นพ่อกับแม่ของลูก

แต่เราก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน?

โอ๊ต : อยู่บ้านเดียวกันเราแยกห้องนอนกันคือต้องบอกว่าเราแยกห้องนอนกันมานานแล้วด้วย 1.พอนอนด้วยกันเขาไม่สบายตัวที่นอนมันพอดีเกินไปก็แยกไปอยู่อีกห้องก่อนหน้านั้นนานแล้วแล้วที่มาคุยกันก็คือเรื่องการแยกห้องนอนในสถานะที่มันเปลี่ยนไป

พอเราตัดสินใจเดินออกจากกันและกันความรู้สึกมันต้องเซ็นใบหย่าไหม?

โอ๊ต : ไม่ต้องเพราะเราไม่ได้จดทะเบียนสมรสตั้งแต่ต้นอยู่แล้วแค่จัดงานเฉยๆที่เราไม่ได้จดทะเบียนสมรส 1.ด้วยเราทำธุรกิจด้วยกลัวผลกระทบที่จะตามมาในอนาคตซึ่งคนที่ทำธุรกิจมีความไม่แน่ไม่นอนก็กลัวมีผลในภายภาคหลังก็เลยไม่เลือกที่จะจดทะเบียนสมรสกัน

อยู่บ้านเดียวกันต้องปรับตัวยังไงเพราะว่ามันต้องเจอกันทุกวันตลอด 5 ปีที่แต่งงานมาเขาคือภรรยาแต่พอวันที่แยกกันแล้ว?

โอ๊ต : เขาคือเพื่อนแล้วเป็นแม่ของลูกยังมีความเอื้ออาทรมีความห่วงใยกันในฐานะเพื่อนแล้วก็แม่ของลูกด้วยฉะนั้นเวลาทำอะไรไปไม่ได้แค่เฉพาะความรู้สึกของเราคนเดียวต้องแคร์ความรู้สึกของลูกด้วยอีก 2 คนนั่งมองอยู่เราใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันพื้นที่ส่วนตัวก็แยกห้องนอนยังไปไหนทำกิจกรรมทุกอย่างปกติเหมือนเดิม

แล้วลูก 2 คนนอนยังไง?

โอ๊ต : นอนกับพ่อทุกคืนพ่อติดลูกด้วยติดกล่อมลูกติดนอนเขาจะนอนตรงแขนพ่อ

พอเราอยู่ด้วยกันเข้าใจแหละว่าแยกห้องพอเราทำอะไรด้วยกันลูกเขารู้ไหม?

โอ๊ต : โอเลิฟมีพูดได้บ้างแบบอยากให้แม่นอนตรงนี้ให้พ่อนอนตรงนี้แล้วลาฟกับเลิฟก็นอนตรงนี้อันนี้มันเป็นคำที่บางทีก็สะเทือนใจเราบางทีเลิฟจับมือพ่อกับแม่มาแล้วบอกว่าเลิฟอยากเห็นพ่อกับแม่รักกันแล้วเลิฟจะมีความสุขเราก็น้ำตาไหลมองหน้ากันกับคุณจีน่าซึ่งมันก็สะเทือนใจเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ข้างในแต่ว่าในหน้าที่ของการเป็นพ่อเป็นแม่เราพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเมื่อถึงวันนึงที่มันสมควรหรือดูวุฒิภาวะที่มันไม่กระทบกับเขามากเราจะพูดความจริงกับเขาเราจะค่อยๆบอกตอนนี้เรากำลังดูเขาอยู่ว่ามันเหมาะสมแค่ไหน

พี่ว่าอายุเท่าไหร่เราถึงจะเปิดใจคุยกับเขาได้?

โอ๊ต : สัก 10 ขวบถึงค่อยบอกแต่ว่าตอนนี้เราพยายามสร้างบรรยากาศในครอบครัวให้มันดูปกติที่สุด

ไปไหนก็ยังไปด้วยกันอยู่ล่าสุดยังไปงานแต่งงานลูกพี่ผัดอยู่เลย?

โอ๊ต : ใช่ยังไปด้วยกันก็ปกติเราเป็นเพื่อนกันความสัมพันธ์ทุกอย่างก็ปกติก็ยังดูแลกันในครอบครัวมันแค่แยกสถานะของความเป็นส่วนตัวออกไปแล้วลดสถานะของความเป็นสามีภรรยา

พอมันเป็นแบบนี้มันสบายใจกว่า?

โอ๊ต : สบายใจกว่าหมายถึงว่าเราไม่ต้องคาดหวังในเรื่องส่วนตัวของเขาในบางสิ่งบางอย่างที่เราคาดหวังแล้วไม่เป็นอย่างที่เราคิดเรื่องพวกนี้ตัดทิ้งไปได้เลยเพราะว่าเขาก็สามารถใช้ชีวิตเขาได้เต็มที่ในส่วนของเขาเราก็สามารถใช้ชีวิตในส่วนของเราได้แล้วมีหน้าที่ร่วมกันคือรับผิดชอบในเรื่องของลูก

มีบางวันที่พี่อยากจะรู้ไหมว่าเขาคุยกับใครไหมคบกับใครไหมหรือไม่เลย?

โอ๊ต : เฉยๆเราปล่อยชีวิตให้เขาอิสระเลยก็มีพอรู้อยู่บ้างแหละเขาไม่ได้ปิดแต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อลูกไงโฟกัสของผมตอนนี้หลักๆเลยคือความรู้สึกของลูกแต่ก่อนยังมีความรู้สึกของตัวเองบ้างนะอยากมีนู้นอยากไปนี่อยากอะไรต่ออะไรแต่ตอนนี้ไม่มีเลยความรู้สึกของตัวเองคือลูกอย่างเดียวเป็นที่ตั้งเลย

แบ่งเวลาในการดูแลลูกๆยังไง?

โอ๊ต : ตอนนี้เวลางานประจำของผมคือจันทร์อังคารพุธพฤหัสบดีอาจจะมีเลยไปวันศุกร์บ้างแต่ไม่ประจำเวลานี้เขาก็จะช่วยดูแลลูกตอนเช้าไปโรงเรียนแต่ว่าเราจะมีแม่บ้านด้วยมาคอยซัพพอร์ตอีกทีนึงพอศุกร์เสาร์อาทิตย์ก็จะเป็นของเราฟูไทม์เต็มที่เลยออกต่างจังหวัดไปหาคุณย่าบ้างไปทำกิจกรรมบ้างลุยจักรยานอยู่ท้ายรถเรียบร้อยปั่นเขาชอบอะไรลุยๆ

แสบเท่าพ่อไหม?

โอ๊ต : พ่อไม่แสบแต่ตัวเล็กแสบนิสัยแบบโฉ่งฉ่างเอาเรื่องใจร้อนมือไวใจถึงแต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมตรงไปตรงมาแต่คนโตเนี่ยจะมีชั้นเชิงมีเล่ห์เหลี่ยมมีอะไรกับน้องแต่ก็แกล้งกันทั้งวัน

ตีไหม ?

โอ๊ต : ตีแต่ไม่ได้ตีด้วยอารมณ์นะตีด้วยเหตุผล

ไปส่งลูกๆที่โรงเรียนทำไมต้องร้องไห้

โอ๊ต : คิดถึงแต่ก่อนเราเป็นผู้ชายใจแข็งไม่ค่อยร้องไห้นะกับสถานการณ์ต่างๆแต่พอมาเจอเรื่องลูกมันเซนซิทีฟแค่อ่านข่าวเด็กคนอื่นแล้วคิดถึงลูกก็ร้องไห้

ฟังดูรักลูกมากแต่ทำไมมีลูกช้าสุดในกลุ่ม?

โอ๊ต : นั่นนะสิคือไม่เคยคิดจะมีลูกเหมือนพี่พีเคนี่แหละหมายถึงว่าคนที่เป็นครอบครัวเราแต่ก่อนเราเคยคิดจะมีลูกด้วยกันแต่พอมันอายุเยอะความต้องการมันหายไปเราเคยคิดจะมีลูกตั้งแต่อายุ 20 ปลายๆพอมันผ่าน 30 กว่า 40 กว่ามันไม่อยากมีแล้วแต่พอมาเจอคนที่แบบว่าเขาก็อยากมีมันก็เลยจุดประกายก็เอาสิเผื่อได้ทีแรกคิดว่าจะเอาแค่ผู้หญิงคนเดียวพอพอผู้ชายมาก็จะเอาเด็กผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้

อนาคตเอาอีกคนไหม?

โอ๊ต : ไม่เอา

แล้วตอนไหนที่พี่พยายามขอหลานของพี่ชุมาเลี้ยง?

โอ๊ต : ตอนพั้นซ์ชี่ 5-6 ขวบแล้วเราก็ไปขอมาเป็นลูกบุญธรรมได้ไหมไม่งั้นป่านี้ก็ไม่มีลูกหรอกชอบเด็กรักเด็กผู้หญิงไม่รักเด็กผู้ชายเจอ 2 เลยแต่ความรักของพ่อกับแม่พอได้มาแล้วมันไม่แยกเพศ

ตอนแรกเกิดมามันเป็นยังไงความรู้สึกเราเปลี่ยนไปเลยไหม?

โอ๊ต : มันตั้งตัวไม่ถูกมันมีเวลาตั้งตัว 9 เดือนแต่พอได้มาจริงๆแล้วมันหวิวจริงเหรอมันงงๆตื่นเต้นลูกเราออกมาจะหน้าตาเป็นยังไงจะเหมือนใครมันลุ้นไปหมดทุกอย่างคนที่สองไม่เท่าคนแรกนะคนแรกลุ้นหนักสุดออกมาจะปกติไหมจะนู้นนี่นั่นหรือเปล่าคิดกังวลไปหมดทุกวันนี้ยังงงอยู่เลยบางทีเกิดอะไรขึ้นวะเวลาผ่านไป 10 ปีกูมีลูก 2 คนมันเป็นไปได้ยังไงอยู่ๆงงๆ

แฮปปี้อยู่กับลูกแหละ

โอ๊ต : แฮปปี้มากครับแต่ก่อนไม่มีความคิดเลยเวลามีลูกมันเหนื่อยก็จริงนะแต่มันจะมีความสุขขนาดนี้

เป็นห่วงพี่วันเดียวจริงๆคือวันที่ต้องบอกลูกเตรียมประโยคไว้ไหม?

โอ๊ต : ตอนนี้เตรียมโรงเรียนไว้ให้ลูกในอนาคตว่าสักวันนึงเราจะส่งลูกไปเรียนโรงเรียนที่ไหนแล้วเราจะคุยกับลูกยังไงแล้วเราจะคุยกับลูกเรื่องของสถานะพ่อกับแม่เนี่ยได้ตอนไหนแค่ไหนก็มีเตรียมๆไว้แต่ไม่ได้วางแผนอะไรมากมายแค่ดูความแข็งแรงของเขาก่อนว่าเราสามารถคุยกับเขาได้แค่ไหน

สิ่งที่ดีกว่านั้นคือเราอยู่ด้วยกันแล้วเขาเห็นว่าเรารักกันหมายถึงพ่อแม่รักกันไม่ได้ทะเลาะกันบางบ้านไม่ได้เลิกกันแต่ทะเลาะกันทุกวันอันนั้นรู้สึกแย่กว่า?

โอ๊ต : บรรยากาศของการอยู่ร่วมกันบรรยากาศที่เขาอยู่กับเราด้วยมันสำคัญมาก

โรงแรมที่บุรีรัมย์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

โอ๊ต : ตอนนี้ดีโรงแรมดูแลตัวเองได้ดีเลยแหละ

แต่ตอนนั้นพี่จะขายแล้วตอนนี้ยังอยากขายไหม?

โอ๊ต : ตอนนี้ยังติดสัญญาขายอยู่กับนายหน้าเจ้าหนึ่งถึงปลายปีตอนนี้มันอยู่ที่ว่าข้อตกลงที่เราคุยกันพอใจแค่ไหนตอนนี้เราไม่ได้เรืงรีบเหมือนตอนช่วงก่อนแล้วแต่ก่อนเราแบกภาระเยอะทั้งร้านอาหารทั้งอะไรตอนนี้รู้สึกว่ามันดูแลตัวเองได้ดีแล้วถามว่ามีความต้องการอยู่ไหมในใจลึกๆเองถ้าเจอดีลที่มันจบดีลที่ตกลงกันด้วยดีผมก็ยังยินดีอยู่ในข้อเสนอเดิม

ถ้าขายได้มันจะเป็นเงินก้อนโตอยู่ในมือเราเลยเอาไปทำอะไร?

โอ๊ต : ให้ลูกครับ

ไม่ได้มีแบบพ่ออยากได้มอเตอร์ไซค์วินเทจ?

โอ๊ต : แต่ก่อนมันมีแต่ความต้องการของเราเองอย่างเดียวเลยแล้วมันไม่ได้มีความสุขด้วยนะมันมีแค่ตอนได้สักพักก็เบื่อเปลี่ยนแต่ตอนนี้รู้สึกว่าอะไรที่เป็นของลูกได้เป็นความมั่นคงของลูกได้เราจะให้ลูกทั้งหมดเลยสิ่งที่เรามีสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดวางแผนไว้ว่านี่เป็นของโอลาฟโอเลิฟทั้งหมดในอนาคตไม่ได้หวังว่ามันจะสามารถหล่อเลี้ยงเขาไปตลอดชีวิตนะแต่มันอาจจะสร้างโอกาสที่ดีให้กับเขาได้ในเวลาที่เขาต้องการ

แสดงว่าถ้าขายได้เงินก้อนโตมาก็เก็บไว้ให้เขาเรียน?

โอ๊ต : ใช่เก็บไว้

วันนี้โสดพ่อลูก2 ?

โอ๊ต : ครับผม

ยังมองหาอยู่ไหมคำว่าความรักเนี่ย?

โอ๊ต : จริงๆไม่เคยเข็ดนะไม่เคยเข็ดเรื่องความรักเลยนะอยากมีความรักตลอดเวลาความรักมันเป็นสิ่งที่ดีสวยงามอยากมีความรักแบบชีวิตคู่ลุงป้ามีความรักแบบคนที่เป็นเพื่อนกันอยากมีมากแต่มีไม่ได้ติดเรื่องลูกยังเล็กอยู่อย่าคิดว่ามีแฟนเลยนะตอนนี้คนคุยยังไม่มีเลย

พี่ปิดประตูใส่เขาใช่ไหม?

โอ๊ต : เราคิดว่าเรายังไม่พร้อม

ถ้าเกิดมีใครอยากไลน์มาคุยด้วยตอนนี้หน้าตาต้องเป็นไง?

โอ๊ต : หน้าตาไม่เกี่ยวแล้วขอคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจอยู่ในทิศทางเดียวกันอายุเยอะหน่อยก็ดี

คำว่าเยอะคือ?

โอ๊ต : มันมั่นคงมากกว่าสัก 35 ขึ้น

คิดว่าจะให้เวลาในความเป็นโสดของตัวเองเท่าไหร่?

โอ๊ต : อีกสัก 5 ปีแต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะถ้าไม่มีคนที่อยู่ด้วยกันแล้วมันมีความสุขจริงๆหรือไม่ได้อยู่ในความคิดความต้องการใกล้เคียงกันก็ไม่เอานะเพราะไม่อยากเป็นทุกข์

อีก 5 ปีน้องเขาโตขึ้นแล้วมันมีโอกาสที่จะกลับมารีเทิร์นไหม?

โอ๊ต : ในอนาคตพูดไม่ได้เลยแต่ในปัจจุบันเราคิดว่าเราอยู่แบบนี้เราสบายใจกว่า

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์โอ๊ตวราวุฒิ

https://youtu.be/dQ6cL1kAEi0

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

 

Twitter : https://twitter.com/innnews

 

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

 

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube