fbpx
Home
|
ข่าว

สธ.แจง2คนติดโควิดในกทม.มาจากท่าขี้เหล็ก-ยังไม่ระบาดรอบ2

Featured Image

กระทรวงสาธารณสุข แถลงไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร 2 ราย โดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยม ศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไปกรมควบคุมโรค เผยว่า พบผู้ป่วยที่มาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา รวมทั้งหมด 23 ราย ซึ่งล่าสุดพบเป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 26 ปี เมื่อวันที่ 27-29 พ.ย. 63 มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง อ.แม่สาย เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.63 ตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.63 พบเชื้อ และมีประวัติร่วมคือมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก กับผู้ป่วยชายไทย (สาวสอง) อายุ 30 ปี ที่เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 30 และตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.63 ผลตรวจพบเชื้อ   https://youtu.be/dwgyF0JziTw   โดยเบื้องต้นทั้งสองรายมีผู้สัมผัสทั้งหมด 15 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 10 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามและสอบสวนโรค และเป็นผู้ติดเชื้อชาวเมียนมาที่ไม่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก แต่เป็นลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจากจังหวัดเมียวดีประเทศเมียนมา 2 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 43 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้เมื่อวันที่ 16-29 พ.ย.63 ข้ามมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63 ไปรักษาโรคประจำตัววันที่ 2 ธ.ค.63 วันที่ 3 ธ.ค.63 ไปคลินิกที่โรงพยาบาลแม่สอด เพื่อขอรับการตรวจ โควิด-19 วันที่ 4 ธ.ค.63 ผลตรวจพบติดเชื้อ โดยเบื้องต้นพบผู้สัมผัสเสียงสูงจำนวน 13 ราย และผู้สัมผัสเสียงต่ำจำนวน 14 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการกักกันตัว 14 วัน และผู้ป่วยชายไทยอายุ 70 ปี อาชีพค้าขาย ทำไร่ ทำสวน เมื่อ 2-3 เดือนก่อนข้ามไปอาศัยอยู่กับภรรยาในประเทศเมียนมา และลักลอบเดินทางข้ามมาจากช่องทางธรรมชาติ และเริ่มมีอาการป่วย เมื่อวันที่ 29 พ.ย.63 และตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.63 ผลตรวจพบเชื้อ โดยพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในเมียนมา 3 คน อยู่ใน Local Quarantine ประเทศเมียนมา และพบผู้ป่วยเสี่ยงสูงในไทยทั้งหมด 15 คน เข้า Local Quarantine จำนวน 2 คน ผลตรวจเชื้อเป็นลบ 1 คน และรอผล 1 คน เข้า Hospital Quarantine จำนวน 5 คน อยู่ระหว่างดำเนินการและ Home Quarantine จำนวน 8 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ นายแพทย์โสภณ ระบุว่า การพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในขณะนี้ ไม่ได้ถือเป็นการระบาดระลอกที่ 2 เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ถือเป็นการติดเชื้ออย่างจำกัด และสามารถระบุต้นเหตุและที่มาได้

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube