เครดิตบูโรย้ำ “ไม่มีการบังคับสหกรณ์ที่มีธุรกรรมสินเชื่อต้องเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร” ความเข้าใจผิดที่ต้องชี้แจง
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ขอชี้แจงทำความเข้าใจต่อกรณีดังกล่าวว่า “จากความเห็นข้างต้นประกอบถ้อยคำของร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ 6. (1) ที่กำหนดว่า “การให้กู้ยืมเงินที่รวมกันทุกสัญญาแล้วตั้งแต่สองล้านบาทขึ้นไป สหกรณ์ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้สมาชิกผู้กู้ส่งข้อมูลเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตเพื่อประกอบการพิจารณาให้เงินกู้” นั้น
จะเห็นได้ว่าร่างกฎกระทรวง ฯ ระบุให้ผู้กู้มาตรวจสอบข้อมูลของตนเองที่เครดิตบูโร (ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตคือการใช้สิทธิตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของข้อมูลตามมาตรา 25) แล้วนำส่งให้แก่สหกรณ์ที่ตนเองขอกู้ยืมเพื่อประกอบการพิจารณา มิใช่การบังคับให้สหกรณ์เข้าระบบเครดิตบูโร
กรณีการนำสหกรณ์เข้าสู่ระบบเครดิตบูโรจะต้องเป็นการที่สหกรณ์มาสมัครเป็นสมาชิกเครดิตบูโร สามารถเรียกดูข้อมูลตรงมายังเครดิตบูโรภายใต้ความยินยอมของผู้กู้ (ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตดำเนินการในฐานะสมาชิกตามมาตรา 20) และต้องส่งข้อมูลประวัติการชำระหนี้สัญญาเงินกู้ด้วยทุกเดือน ซึ่งเป็นคนละกรณีกับร่างกฎกระทรวงฯ นี้โดยสิ้นเชิง และสหกรณ์นั้น ๆ จะต้องสมัครใจและมีความพร้อมจึงจะเข้าระบบเครดิตบูโรได้”
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีสหกรณ์ออมทรัพย์หลายรายที่ได้เข้าสู่ระบบเครดิตบูโรแล้วในฐานะสมาชิกแม้ไม่มีร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับนี้ ด้วยความสมัครใจเนื่องจากเห็นประโยชน์ในภาพรวมของการบริหารจัดการเงินฝากของสมาชิกที่นำมาปล่อยกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สหกรณ์หลายแห่งก็ยังดำเนินการออกเกณฑ์การกู้ยืมเงินโดยให้ผู้กู้มาตรวจสอบข้อมูลของตนเองที่เครดิตบูโรแล้วนำส่งให้แก่สหกรณ์ประกอบคำขอกู้เป็นปกติแม้วงเงินกู้ยืมไม่ถึงสองล้านบาทเช่นกัน
การที่ผู้ให้กู้ยืมนำข้อมูลจากเครดิตบูโรไปร่วมพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อให้ได้เห็นวงเงินเป็นหนี้รวมตามความจริงว่าจะเป็นภาระในการผ่อนชำระแก่ผู้กู้มากเกินไปหรือไม่ ตามหลักการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) กล่าวคือ ผู้ให้กู้ยืมจะต้องดูให้แน่ใจว่าให้สินเชื่อไปแล้วคุณภาพชีวิตลูกหนี้ดีขึ้นหรือเลวลงนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews