สวัสดีปีฉลู-”ตู่โควิด2”ไม่ฉลุย

‘@สวัสดีปีใหม่ปีฉลู2564 ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ ”คนไทย” มีหัวใจเต็มไปด้วย ”ความกังวล” ทำให้บรรยากาศดูเหงาๆ จากที่จำเป็นต้องงดกิจกรรมที่ทำมาทุกปีไม่ว่าจะเคาน์ดาวน์สิ้นปี หรือทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ แม้บางส่วนจะยกเรื่องหนักอกกับชะตากรรมชีวิตข้างหน้า ปลดปล่อยเสพ ”ความสุข” สูดหายใจลึกๆในช่วงวันหยุดยาวให้เต็มปอดเติมพลังใจให้เต็มถัง เพื่อกลับมาสู้ต่อกับ ”โควิด2” ที่กลับมาใหม่อีกครั้ง ในช่วง 15 วันสุดท้ายของปี2563 แต่ก็มีบางส่วนที่อยู่ในสภาพยังต้องทำงานหนัก แข่งกับเวลาเพื่อชีวิตประชาชน อย่างเช่นบุคลากรการแพทย์บรรดา ”คุณหมอ-พยาบาล” ที่ยังต้องอยู่ ”หน้างาน” รบกับ ”โควิด”ที่กลับมาบุกประชิดเมืองหลวงกรุงเทพ และตีทุกเมืองหน้าด่านประเทศไทยจนเกือบจะครบ 77 จังหวัด https://youtu.be/tr2kGddHofU @ในขณะก็ยังมีประชาชนหาเช้ากินค่ำอีกส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจาก ”เศรษฐกิจ” ที่เป็น ”เอฟเฟ็กซ์” จาก ”โควิดภาค1” ยังคง ”ตกงาน” อยู่ด้วยความลำบากที่จำเป็นต้องออกหางานหาเงินประทังชีวิตที่ย่อม ”กักตัวเอง” เพื่อเซฟสุขภาพไม่ให้ติด ”โควิด” ที่กำลังกระจายเชื้อไปทุกทิศทั่วไทย ไม่มีอารมณ์จะหยุดไปเที่ยว เพราะกลัวท่าติดเชื้อจะลำบากปากท้องคนข้างหลัง @เรียกว่ามีคนไทยไม่น้อยที่ ”ยกการ์ดสูง” อยู่แล้วไม่ต้องรอ ”ลุง” จี้ย้ำวันนี้(1ม.ค.) ในการอวยพร ปีใหม่ โดยขอให้คนไทย ร่วมแรงร่วมใจกันอีกครั้ง ทำภารกิจเพื่อชาติ ลุกขึ้นสู้กับโควิดฯ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดโดยระบุ อาวุธที่สำคัญ คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ยอมรับ ปี2563 เป็นปีท้าทายและยากลำบากและปี2564 ที่คาดว่า ”โควิดฯ” จะรุนแรงขึ้น “ลุง” เลยขอให้ทุกฝ่ายร่วมใจ สร้างชาติ ขอพลังของคนไทยเป็นทวีคูณ และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น-ที่อาจต่างจาก ”คนไทย” เพียงส่วนน้อย ที่ยังคงมีพฤติกรรมแบบ กลุ่ม ”บ่อนทำลายชาติ” ที่ยังคงไปเข้าบ่อนการพนันที่อยู่ในเครือข่าย ”ขาใหญ่” ภาคตะวันออก ทั้งที่ ระยอง จันทบุรี ชลบุรี จนเกิดการแพร่ระบาดหนัก ”ชุดใหญ่” จนตัวเลขติดภายในไทยวันนี้พุ่งไป 257 จากตัวเลขรวมติดเชื้อ 279 คน ต่อจาก ”ตลาดกลางมหาชัย” ที่มาจาก ”แรงงานเถื่อนต่างด้าว” ที่ยังไม่ทันซามีติดเชื้อ 16 คน อย่างที่เห็น @กระนั้นก็น่าสนใจพิจารณา กับโจทย์ใหญ่ 10 ข้อที่ “ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข” นักวิชาการด้านความมั่นคง จากจุฬาฯ นำเสนอเมื่อวาน(31ธ.ค.) ว่า ปี2564 อาจจะเป็นปีที่โหดร้ายกับสังคมไทย โดยมองว่าปมการประท้วงของ ”ม็อบเด็ก” ที่หยุดไปและเตรียมก่อตัวใหม่ เป็นส่วนหนึ่งหรือแค่ ”ข้อสอบย่อย” โดย “โจทย์ใหญ่” ยังคงเป็นเรื่อง “โควิด-เศรษฐกิจ” ที่เมื่อไล่เรียงแล้ว“ลุง”ต้องตอบ”ข้อสอบ” การบ้านที่ต้องทำตามความคำคัญประกอบด้วย 10 วิกฤต คือ 1.วิกฤตโรคระบาดโควิด 2.วิกฤตเศรษกิจ 3.วิกฤตสังคมคนตกงานและคนจน 4.วิกฤตการเมืองการประท้วง 5.วิกฤตเรื่องอากาศ พีเอ็ม2.5 อีกไม่นานไฟป่ามาแห้งแล้ง 6.วิกฤตความเชื่อมั่น ที่จะเกิดการปะทะ ”สงครามความคิด” ระหว่าง ”ฝ่ายเสรีนิยม” กับ ”ฝ่ายจารีตนิยม” หรือสงครามเจนเรชั่น 7.วิกฤตทางออกประเทศไทย เช่น กระบวนสมานฉันท์ของ ”ชวน” ที่จะถูกเจาะยาง 8.วิกฤตกองทัพ ปัญหาบทบาททหารความชัดเจน ข้อเรียกร้องปฏิรูปกองทัพ เสรีนิยมปะทะเสนานิยม 9.วิกฤตศรัทธา โดยเฉพาะ ”ผู้นำ” ที่จะพาฝ่าวิกฤต และ 10.วิกฤตจากภายนอกสหรัฐ-จีน ที่จะมีการแข่งขันที่เข้มข้นในปีหน้า @น่าสนใจคือ ”อ.สุรชาติ” นอกจากประเมินว่า การประท้วงของ ”ม็อบเด็ก” อาจเป็นเพียงแค่ ”ข้อสอบย่อย” เป็นเชื้อไฟ แต่ถ้ารัฐยังประเมินว่าฝ่อไป ก็ยังไม่น่าวางใจ ว่าปี 64 ในมุมหนึ่งจะเป็นปีแห่งการประท้วง เพราะจะเกิด”ปัญหาแรงงานไทย”ที่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจโควิดออกมาประท้วง ถ้าเศรษฐกิจไทยแย่กว่าปี 63 ที่มีแนวโน้มว่า ”เศรษฐกิจตัวแอล” จะลากยาวต่อเช่นกันทั่วโลก ทำให้เราออาจได้เห็น “ม็อบ3ประสาน” ที่ผนวกกัน คือ”คนเรียน-คนงานและคนหิว”คือ”ม็อบปากท้อง” ถ้า 3 ม็อบประสาน ปีนี้จะเป็น”โค”ที่ดุมาก @ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามว่า ”ลุง” จะแก้โจทย์หินเหล่านี้ได้หรือไม่ โดยเฉพาะ ”วิกฤติเศรษฐกิจ” ที่จะเป็น ”ไฟกองใหญ่ ”ต้นทางของทุกปัญหา ที่ ”ลุง” จะต้องแก้ไปพร้อมกับ ”โควิด2” ที่ยังมี ”ปัจจัย” ที่ยากควบคุมที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะรุนแรงแค่ไหนจากวันนี้ และ ”วิกฤตนี้” จะเป็น”โอกาส”เป็นเหตุผลให้”ลุง”ต้องอยู่ต่อเพื่อนำทัพสู้เหมือน”โควิดภาคแรก”หรือไม่