fbpx
Home
|
ทั่วไป

บขส.ส่งป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว16คนถึงนครพนม

Featured Image
บขส. ส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว 16 คน ถึงนครพนม กลับไปรักษาตัวถึงภูมิลำเนา ย้ำ ไม่รับ-ส่งผู้ป่วยที่เดินทางมาเอง (Walk in)

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ได้นำรถโดยสารไปรับส่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว กลับไปรักษาตัวที่จังหวัดนครพนม จำนวน 16 คน เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.64) โดยภารกิจครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีข้อสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการส่งต่อการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว ซึ่ง ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ติดต่อให้ บขส. จัดรถโดยสารรับ-ส่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 จากศูนย์การเคลื่อนย้าย กองทัพบก (ขส.ทบ.) กลับไปส่งยังภูมิลำเนา เป็นรอบที่ 4 และ บขส. ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นด้วยความเรียบร้อย

ก่อนหน้านี้ บขส. ได้จัดรถโดยสารรับ-ส่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 แล้ว จำนวน 3 ครั้ง คือ เส้นทางโรงพยาบาลศิริราช-โรงพยาบาลสนามบุษราคัม, เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, และเส้นทางกรุงเทพฯ-อำนาจเจริญ, โดยทุกเที่ยววิ่ง บขส. ได้คำนึงถึงความปลอดภัย โดยพนักงานของ บขส. ที่เข้าร่วมภารกิจนี้ ได้รับการฉีดวัคซีนและผ่านการอบรมจากเจ้าหน้าที่ สพฉ. รวมทั้ง บขส. ได้มีการปรับปรุงรถโดยสารให้ได้มาตรฐานตามที่สาธารณสุขกำหนด เช่น กั้นห้องโดยสารระหว่างพนักงานขับรถและผู้โดยสาร ปรับระบบปรับอากาศบนรถ และหุ้มบริเวณเบาะด้วยพลาสติก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อฯ

อย่างไรก็ตาม บขส. พร้อมดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการเป็นหน่วยงานสนับสนุน ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19อย่างเต็มที่ เพื่อส่งผู้ป่วยโควิดจากกรุงเทพฯ กลับสู่ภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย และขอย้ำว่า บขส. ดำเนินการรับ-ส่งผู้ป่วยฯ กลุ่มสีเขียว ตามที่ได้รับการประสานจาก สพฉ. เท่านั้น ไม่สามารถรับ-ส่งผู้ป่วย ที่เดินทางมาเอง (Walk in)

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube