fbpx
Home
|
บันเทิงไทย

“หยา จรรยา” เผยอดีตสุดปัง พังเพราะกินเหล้าหนัก ปาร์ตี้จนเกือบตาย

Featured Image

“หยา จรรยา” เผยอดีตสุดปัง พังเพราะกินเหล้าหนัก ปาร์ตี้จนเกือบตาย

            “หยา จรรยา” เผยชีวิตสุดตีน กินเหล้าวันละ ขวดทุกวัน เมาจนช็อกเกือบตาย โคตรมั่นป่วย ปีไม่ยอมรักษา จนร่างกายพังหัวใจตับไตพินาศ กว่าจะถึงมือหมอ หวิดตาย รอบ

            คร่ำหวอดในวงการมาหลายสิบปีสำหรับ “หยา จรรยา ธนาสว่างกุล” ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในบท “พี่ผิน” ในละครบุพเพสันนิวาส ความปังของละครดังกล่าวส่งผลในหยามีงานเข้ามาต่อเนื่องไม่ขาดสาย เงินทองหลั่งไหลเข้ามา แต่ใครจะรู้ว่ากว่าประสบความสำเร็จแบบนี้ชีวิตของหยา จรรยา ครั้งหนึ่งก็เคยใช้ชีวิตแบบสุดตีน ทั้งเที่ยวกินเหล้าเมาทุกวันยันเช้า 365 วัน กินคนเดียววันละต่ำๆ กลม ถ้ามีเพื่อนมาแจมก็ กลมขึ้นไป ปาร์ตี้จนน็อกต้องหามส่งโรงพยาบาล จากที่เคยหุ่นดีราวนางงาม ทำให้น้ำหนักพุ่งไปถึง 80 กก. ผลการใช้ชีวิตอย่างหนักทำให้ร่างกายพัง เฉียดตายไปพบยมพบาลถึง รอบ ปัจจุบันต้องกินยาวันละเป็นกำ

            ถ้าเลือกได้ย้อนอดีตได้หยาบอกว่า จะไม่ขอไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีก วันนี้อยากจะเผยแพร่ประสบการณ์ในชีวิตของตนเองให้คนอื่นรู้ จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท

            “เมื่อก่อนเป็นคนที่ผอมสมัยก่อนหนักแค่ 50 กิโล สัดส่วน 33 24 36 สูง 168 หุ่นนี่คือนางงามเลย นึกภาพกันไม่ออกเลยว่าเคยผอมเท่านี้ด้วยเหรอ เข้าวงการใหม่ๆ ตอนนั้นเกือบได้เป็นนางเอกละครเวที แล้วก็ได้เล่นประกบพลอย เฌอมาลย์ เป็นเพื่อนพลอย คิดดูสิเคยได้เล่นเป็นเพื่อนพลอยนะสวยแค่ไหน แต่ด้วยความที่เราใช้ชีวิตแบบหนักหน่วงมาก น้ำหนักก็ค่อยๆ ขึ้นทีละ โล กระทั่งทะลุไป 20 กก. จากนั้นก็ไม่เคยลงอีกเลย กระทั่งตอนนี้ 80 กก.”

            “เป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบสุดทุกอย่าง เที่ยวสุด ดื่มสุด กินสุด มันสุด ไม่มีตรงกลาง เหยียบให้มิดแล้วพุ่งไปเลยค่ะ ใช้ชีวิตแบบไม่สนใจ ไม่ดูแลตัวเองเลย ใช้ชีวิตแบบเที่ยวถึงเช้าแล้วไปทำงานต่อ เราคิดว่าการดื่มคือการผ่อนคลายคือการปลดปล่อยเพราะเราทำงานหนัก ดื่มเหล้าคนเดียวอย่างต่ำ กลม แต่ถ้าดื่มกับเพื่อน คนขึ้นไปต้องมี กลม เป็นแบบนี้ 365 วัน ดื่มแบบนี้จนถึงเช้า พอเช้าก็ไปทำงานกองถ่ายต่อ แล้วบางวันนี่มันมากกว่า ขวดอันนี้คือค่าเฉลี่ย ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ 10 กว่าปี เที่ยวตลอดปาร์ตี้สังสรรค์ใช้ชีวิตเต็มที่”

            “ดื่มแบบนี้กระทั่งวันหนึ่งมันน็อกไปเลย เพื่อนต้องแบกไปโรงพยาบาล เพื่อนต้องสวดมนต์ใส่หูเพราะคิดว่าเราจะไปแล้ว เรียกเราก็ไม่รู้สึกตัว ก็เรียกว่าเฉียดตายเลย พอฟื้นขึ้นมาก็ยังใช้ชีวิตแบบนั้นนะ กระทั่งวันหนึ่งประสบอุบัติเหตุต้องไปห้องฉุกเฉิน หมอวัดความดันมันขึ้นไปถึง 240 ทุกคนตกใจมากกลัวว่าจะช็อตตายหรือเปล่า แต่ก็รอดมาได้อีกครั้ง แต่เราก็ไม่ยอมรักษาไม่ยอมไปเช็คร่างกาย เพราะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก มั่นใจว่าเรารู้จักร่างกายของตัวเองดี ก็ทิ้งไปแบบนั้น ปี”

            ความดันพุ่งจนเลือดทะลักไม่หยุด

            “เราสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยให้งานไปแต่นักศึกษาไม่ยอมทำงานมา ทำให้เราโกรธมาก เราก็ต้องไปขึ้นชิ้นงานให้นักศึกษา มันบ่มความโกรธไว้ กระทั่งทำให้นักศึกษาจนถึงคนสุดท้าย เราพูดประโยคสุดท้ายปุ๊บ เลือดกำเดานี่ไหลโพล๊ะออกมาเลย แล้วมันก็ไม่หยุดเลย ก็ต้องไปห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ปรากฏว่าความดันขึ้นไป 250 หมอก็ขอให้แอดมิทแต่เราไม่ยอมเพราะคิดว่า อาการนี้เป็นมานานมากแล้วขอกลับบ้าน”  

“แต่วันรุ่งก็กลับมาหาหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาล คุณหมอจับตรวจชุดใหญ่เลยตรวจแอ๊คโค่หัวใจเพื่อจะดูคลื่นหัวใจว่ามีปัญหาหรือเปล่า เนื่องจากแบกความดันที่สูงแบบนี้มา ปี ปรากฏว่าความดันสูงของตัวเองมันส่งผลกระทบกับหัวใจ ภาวะผนังหัวใจโตทำให้หัวใจทำงานหนัก และส่งผลให้ค่าไตค่าตับมีความผิดปกติ ส่งผลให้ตับไตทำงานหนักและอาจเป็นโรคไตในอนาคต”

 “และเข้าสู่ภาวะเบาหวานแฝง ผลการเจาะเลือดวันนั้นทำให้พลิกชีวิตเราเลย ทำให้รู้ว่าโรคเบาหวานนี่มันอยู่ใกล้ตัวเราเลย ค่าเบาหวานมันขึ้น เรานึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่เราเลยเพราะท่านเป็นเบาหวาน เรารู้ดีว่าสภาวะของผู้ป่วยเบาหวานเป็นอย่างไร ตอนนั้นคือต้องมาฟอลโล่ทุกอย่างค่าเบาหวาน ค่าตับ ค่าไต ต้องมาเจาะเลือดทุก อาทิตย์ เจาะจนพรุนไปหมด”

“ตอนนั้นคือเราเริ่มเครียดแล้วจะทำยังไงดี ก็ไปเซิร์จข้อมูลแล้วก็ไปกินยาผีบอก ก็กินไปพักนึงเลยนะ กระทั่งมานึกถึงคุณพ่อที่กินยาไม่เลือก กินทั้งยาต้มยาหม้อยาลูกกลอน กระทั่งป่วยเป็นโรคไตกลายเป็นผู้ป่วยฟอกไต เราก็เลยหยุดเลยจะใช้ชีวิตวู่วามเหมือนตอนเด็กๆ ไม่ได้”

ปัจจุบันต้องกินยาวันหนึ่งเป็นกำๆ

“เราก็ต้องหันมาดูแลตัวเอง ต้องคุมอาหารไม่กินตอนกลางคืนเพราะมันจะถูกเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาล แล้วก็ต้องกินพวกวิตามินในการบำรุงเยอะมาก ต้องกินวิตามินดี กินน้ำมันตับปลา กินซิ้งค์ ธาตุเหล็ก และตอนนั้นความดันเราขึ้นเยอะมากถึงขั้นต้องไปฉายแสงเข้าเส้นเลือด กระทั่งต้องมาใช้เครื่องนี้ที่บ้าน คุณหมอก็แนะนำให้กินขมิ้นชันจะช่วยทำให้ประสิทธิภาพของแสงเข้าไปในเส้นเลือดได้ดีขึ้น คือวันๆ หนึ่งนี่กินหลายตัวมากๆ รวมไปถึงยากินที่ต้องรักษาอีกทั้งวันต้องกิน 15 เม็ดกินเป็นกำๆ จนเรารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว ก็ต้องหาเสริมอาหารที่กินแค่เม็ดเดียวแล้วได้ทุกอย่างที่เราขาดก็คือ (caminia) คามินเนีย ซึ่งตอนนี้บอกเลยว่ามันได้ผลจริงๆ ตอนแรกค่าวิตามินดีในร่างกายหยาไม่ขึ้นเลย แต่หลังจากทานคามินเนียไปค่าวิตามินดีขึ้นไปถึง 25 คุณหมอแฮบปี้มาก”

            “แล้วทุกวันเราต้องวัดความดันส่งคุณหมอ พอเริ่มกินเสริมอาหารคามินเนียความดันดีขึ้นคุณหมอค่อนข้างพอใจ ถึงกับสั่งให้ลดการกินยาลดความดันไป เม็ด มันเป็นชัยชนะเล็กๆ แต่มันยิ่งใหญ่มากกับการที่แบกความดันสูงมา ปี ก็ขอบคุณตัวเองที่ยอมไปหาหมอและก็ยอมเปิดใจให้กับคามินเนีย ตอนนี้อินซูลีนเบาหวานเคลียร์หมดแล้ว”

            “มองย้อนกลับไปในชีวิตก็ยังคิดเลยว่าเราใช้ชีวิตแบบสุดมากประมาทมาก กินเหล้าขนาดนั้นดื่มเข้าไปได้ยังไง ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะไม่ไปใช้ชีวิตแบบนั้น ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ใช้ชีวิตแบบสุดประมาทละเลย ความสุดมันไม่ได้เท่ห์ ถ้าเลือกได้จะไม่สุดแบบนั้นจะไม่ดื่มแบบนั้น”

            สอบตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @caminia  Call center: (02)331-7498-9 Website: https://caminia.net/ FACEBOOK:  https://www.facebook.com/Caminiathailand/

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube