fbpx
Home
|
ข่าว

สสส. เจาะลึกทิศทางสุขภาพ 10 ประเด็น ห่วงสุขภาพคนไทยปี 64 ดิ่ง!

Featured Image

สสส. เจาะลึกทิศทางสุขภาพ 10 ประเด็น ห่วงสุขภาพคนไทยปี 64 ดิ่ง! ดึงเทรนด์รักสุขภาพบูมรับชีวิตวิถีใหม่ ขณะที่วิกฤตโควิด-19 มาราธอนเขย่าโลก ข่าวลวงว่อน-เครียด-เนือยนิ่ง-ป่วย NCDs ยิ่งเสี่ยง ปัญหา‘ฝุ่นควัน PM2.5’ อันตราย พบคนตายจากโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่ม 1.5 เท่า วัยรุ่นไทย2ใน3มีภาวะซึมเศร้า การกินอยู่อย่างไทยคนเมืองแนวโน้มเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่ม 2.4 เท่า อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพบริษัทไวซ์ไซท์ ประเทศไทย และภาคีเครือข่ายทางวิชาการ จัดเวที “Thaihealth Watch จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย ปี 2564Rewind to the future มองเทรนด์สุขภาพ ฉายภาพพฤติกรรม ปรับให้พร้อม เพื่อก้าวไปต่อปี ’ 64”เปิด 10 ประเด็นทิศทางสุขภาพคนไทยที่มีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และประเด็นที่ยังเป็นกระแสต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาซึ่งแบ่งเป็น2 หัวข้อ คือ วิกฤตโควิด-19 มาราธอนเขย่าพฤติกรรมสุขภาพคนไทย6 ประเด็นและสถานการณ์ที่น่าจับตาต่อเนื่องจากปี 2563อีก4 ประเด็น ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.กล่าวว่าวิกฤตโควิด-19 มาราธอนเขย่าพฤติกรรมสุขภาพคนไทยมี 6 ประเด็นคือ 1.FAKE NEWS บทเรียนรับมือโรคอุบัติใหม่พบว่ามีข่าวปลอมบนโลกออนไลน์มากถึง 19,118 ข้อความ จึงเกิดการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม Anti-Fake Newsและแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อตรวจสอบข่าว โคแฟค2.ผู้ป่วย NCDs กลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง ทุกครั้งของการเกิดโรคอุบัติใหม่โดยเน้นโรคโควิด-19โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรงถึง 7 เท่า ผู้สูบบุหรี่ 1.5 เท่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ภูมิต้านทานต่ำลง เช่นเดียวกับมลพิษทางอากาศ3.Digital Disruption หมุนเร็วขึ้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตเกิดพฤติกรรมในช่วงล็อคดาว์ที่ “โลกออนไลน์”เข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คนค่อนข้างมากและปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่อาทิ การประชุมช้อปปิ้ง ออกกำลังกาย ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า4.การออกกำลังกายวิถีใหม่หลังช่วงล็อกดาวน์คนไทยมีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14 ชั่วโมง 32 นาทีต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 8 ปี เกิดนวัตกรรมเอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกายขึ้น อาทิ แอปพลิเคชัน “ไร้พุง” ที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการมีกิจกรรมทางกายในบ้านที่เหมาะสมกับทุกวัยคู่มือมาตรการการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่5.ภาวะเครียด ผลพวงทางเศรษฐกิจตกต่ำ การเยียวยาด้านสุขภาพจิตจึงเป็นปัจจัยสำคัญ 6.New Normal ชีวิตวิถีใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมมีการพูดถึงบนสื่อสังคมออนไลน์อย่างมากคือ‘การใช้เจลล้างมือ’ ‘การเว้นระยะห่าง’ ‘การสวมหน้ากากอนามัย’ ‘เรื่องสุขนิสัยและสุขอนามัย’212,894 ครั้งผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2563 ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ92สะท้อนให้เห็นกระแสความตื่นตัวในเรื่องการรักษาสุขอนามัยส่วนตัวและรับผิดชอบต่อส่วนรวม “สถานการณ์โควิด-19 เป็นวิกฤตของมนุษยชาติที่ สสส. ต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง รองรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที เร่งการทำงานให้เกิดนวัตกรรมสุขภาพ สร้างความตระหนักรู้ให้คนไทยมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ที่ผ่านมา ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาระบบสื่อสารข้อมูลสุขภาพ ‘ไทยรู้สู้โควิด’สร้างกระแสสังคมให้ทุกคนลดความเสี่ยงติดเชื้อ-แพร่เชื้อ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง ลดพฤติกรรมเสี่ยงทำลายสุขภาพโดยเฉพาะบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของภาครัฐอย่างเต็มที่” ผู้จัดการ กองทุน สสส. กล่าว ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ที่น่าจับตาต่อเนื่องจากปี 2563 อีก 4 ประเด็น คือ 1.‘ฝุ่นควัน’ อันตราย จาก PM2.5 พบสัญญาณการเสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินหายใจ เกิด‘โรคมะเร็งปอด’ โดยเฉพาะภาคเหนือ และกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า สวนทางกับแนวโน้มการสูบบุหรี่ของคนในภาคเหนือลดลงจากร้อยละ22 ในปี 2550 เหลือเพียงร้อยละ17 ในปี 2560 ความเสี่ยงส่วนหนึ่งอาจเกิดจากปัญหามลพิษทางอากาศ สสส. จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดทำชุดความรู้ข้อเสนอเชิงนโยบาย มาตรการ และแนวทางแก้ปัญหามลพิษทางอากาศเชิงระบบ ในรูปแบบ ‘ร่างกฎหมายอากาศเพื่อสุขภาพ’ และงานวิชาการสมุดปกเขียวอากาศสะอาด2.“ขยะพลาสติก” กำลังกลับมาในช่วงที่ต้องอยู่บ้านคนไทยใช้บริการธุรกิจรับ-ส่งอาหาร เกิดขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 800 ตันต่อวันขยะพลาสติกหรือไมโครพลาสติกส่วนใหญ่ที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมมีงานวิจัยพบการปนเปื้อนในระบบนิเวศทำให้บริโภคและหายใจนำไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกายเฉลี่ยปีละ 50,000 อนุภาค “3.‘สุขภาพจิต’ วัยรุ่นไทย เมื่อความสัมพันธ์เป็นเหตุผลวิจัยความชุกของภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงฆ่าตัวตาย ในโรงเรียน 13 เขตพื้นที่บริการสุขภาพพบว่า กลุ่มตัวอย่าง‘2 ใน 3’ มีภาวะซึมเศร้าและ 4.ตามติดพฤติกรรมกินอยู่อย่างไทย พบคนเมืองแนวโน้มเสียชีวิตโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้น 2.4 เท่าคนในเขตเมืองมีแนวโน้มเสียชีวิตสูงกว่าคนนอกเขตเมือง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุด 15.2 คนต่อประชากรแสนคน ตามด้วยภาคกลาง 10.9 คนต่อประชากรแสนคน ภาคเหนือ 8.6 คนต่อประชากรแสนคน ภาคอีสานและภาคใต้ 5.5 คนต่อประชากรแสนคนเท่ากันในปี 2564 สหประชาชาติประกาศให้เป็น ‘ปีแห่งผักผลไม้สากล’ทุกภาคส่วนจึงควรกระตุ้นให้คนไทยกินผักและผลไม้ให้เพียงพอ” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส. กล่าวว่า Thaihealth Watch 10 ประเด็นทิศทางสุขภาพคนไทย ปี 2564ถือเป็นนวัตกรรมการเชื่อมโยงองค์ความรู้ใน 3 ส่วนจากการสานพลังความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทำให้เกิดความตระหนักในการหันมาดูแลสุขภาพ ได้แก่1. สถานการณ์สุขภาพคนไทย (Situation) จากสถิติสุขภาพ 10 ปี ย้อนหลังรายเขตสุขภาพ ระหว่างปี 2553–2562 เพื่อเห็นทิศทางหรือแนวโน้มภาระโรคที่เกิดขึ้น รวมถึงสถิติเชิงประเด็นที่เกี่ยวข้อง 2. กระแสความสนใจในสื่อสังคมออนไลน์(Social Trend) ที่สะท้อนแนวโน้มพฤติกรรมสุขภาพของคนไทยในแต่ละประเด็น และ 3. ข้อแนะนำ(Solution) ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล อาทิ แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อตรวจสอบข่าว โคแฟคและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อสังคมอาทิ ร่างกฎหมายอากาศเพื่อสุขภาพลดปัญหามลพิษทางอากาศพร้อมสื่อสารทิศทางสุขภาพ 10 ประเด็นสุขภาพคนไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2564 ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://thaihealthwatch.thaihealth.or.th/ https://youtu.be/mrBp6VGeewE

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube