fbpx
Home
|
ทั่วไป

สธ.พบโควิดทองหล่อพันธุ์อังกฤษ

Featured Image
สธ. ชงปรับโซนสีรอเคาะพบโควิดผับทองหล่อพันธุ์อังกฤษ-ย้ำวัคซีนฟรี ชี้หากพบเก็บค่าบริการแจ้งตำรวจได้ทันที

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) จากสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่าไทยติดเชื้อเพิ่ม 334 ราย (ติดเชื้อในประเทศ 327) สะสม 29,905 ราย โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงสถานบันเทิง และช่วงสงกรานต์หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ คาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น 1.3-100 เท่า อาจพบผู้ติดเชื้อนับพันคนต่อวันหากไม่มีมาตรการควบคุม เนื่องจากสายพันธุ์ที่ระบาดในสถานบันเทิงเป็นสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่กระจายเร็วกว่าปกติถึง 1.7 เท่า คาดว่าสงกรานต์ปีนี้ระบาดมากกว่าปีที่แล้ว 10 เท่า ซึ่งมาตรการของปีที่แล้วกับปีนี้ต่างกัน 10 เท่า ถ้าเชื้อระบาดมากกว่าและมาตรการน้อยกว่าเชื้อก็จะติดเป็น 100 เท่า เมื่อเชื้อแพร่ได้กว่าปกติ 1.7 เท่า อาจทำให้เชื้อแพร่ระบาดช่วงสงกรานต์นี้สูงถึง 170 เท่า

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก กล่าวว่า จากการตรวจผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อจำนวน 24 คน พบว่าทั้งหมดติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษโดยผู้ป่วยไม่แสดงอาการ แต่มีปริมาณไวรัสจำนวนมาก ติดต่อง่ายกว่าปกติประมาณ 1.7 เท่า จึงห่วงว่าช่วงสงกรานต์ซึ่งมีพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ สามารถเดินทางไปได้ไกลโดยไม่รู้ว่ามีไวรัสอยู่ อาจนำเชื้อไปสู่ผู้ใหญ่ หากผู้สูงวัยติดเชื้อจะมีความรุนแรงของโรคสูง มีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้น จึงเป็นห่วงเรื่องการเคลื่อนย้ายของประชากรซึ่งสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มี 3 ชนิดคือสายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกาใต้ และ บราซิล แต่ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใด ความรุนแรงยังเหมือนเดิม แพียงแต่มีการแพร่ระบาดง่ายขึ้น แต่ยืนยันว่าวัคซีนยังมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า เห็นด้วยตามมาตรการกำหนด 5 จังหวัดเป็นพื้นที่สีแดง ( กทม./ปทุมธานี/นนทบุรี/สมุทรปราการ/นครปฐม) เพราะการระบาดรอบนี้เกิดจากคนอายุน้อยไม่ค่อยมีอาการ เป็นการยากที่จะรู้ว่าใครป่วยหรือไม่ป่วย แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อจึงเพิ่มมากขึ้น และหากสงกรานต์นี้ไม่มีความจำเป็นขอให้งดการเดินทางหรือเคลื่อนย้ายแต่หากจำเป็นต้องปฏิบัติตนเคร่งครัดและมีวินัย ปฏิบัติตามาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือเป็นประจำ และขอย้ำว่ายังไม่ห้ามเดินทางข้ามจังหวัดแต่คณะกรรมการโรคติดต่อในจังหวัดนั้น ๆ อาจมีมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งการเดินทางเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แพร่กระจายเชื้อได้ หากเลือกได้ควรเลือกยานพาหนะส่วนบุคคล หรือที่ไม่แออัดทั้งคนขับและผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง สแกนแอปพลิเคชันติดตามตัว หากถึงจังหวัดปลายทางมีเงื่อนไขก็ให้ปฏิบัติตาม และติดตามอาการด้วยส่วนการแจกจ่ายวัคซีน กระทรวงสาธารณสุข จะกระจายวัคซีนไปตาม จังหวัดต่าง ๆ ทั้ง โรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยยืนยันว่า การฉีดวัคซีนไม่มีการเก็บค่าบริการฉีดวัคซีนแต่อย่างใดหากพบสามารถแจ้งตำรวจดำเนินการได้ทันที หรือแจ้งที่สายด่วน 1422

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube