ม็อบปิดถนนอโศกมุ่งหน้าเพชรบุรีตัดใหม่ และ ถนนอโศกมนตรีฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกอโศกได้ปิด 2ช่องทาง
บรรยากาศบริเวณแยกอโศกเวลา 16.00 น. มีการจัดการชุมนุมของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด ) โดยมีการปิดถนนอโศกมนตรี ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าสู่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และถนนอโศกมนตรีฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกอโศกได้ปิด 2 ช่องทาง และสามารถสัญจรได้เพียง 2 ช่องทางขาออกเท่านั้น
โดยทำการจัดตั้งเวที เครื่องขยายเสียง เพื่อทำกิจกรรม ขณะที่มวลชนและสื่อมวลชนทยอยเข้าพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด )จะเดินทางมาเริ่มกิจกรรมในเวลา 17.00 น.
บรรยากาศที่บริเวณแยกอโศกเวลา 17.00 น. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด ) ทางมวลชนได้นำรถจักรยานยนต์มาร่วมขบวนไบร์ม็อบเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกับเปิดกิจกรรมไบร์ม็อบในการขับแสดสัญญาลักษณ์ไปตามเส้นทาง พระโขนง-นานา วน 3 รอบและกลับมาที่จุดแยกอโศกเพื่อรวมตัว
ทั้งนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด ) เปิดเผยว่า สำหรับการจัดกิจกรรมที่แยกอโศกจะเป็นลักษณะกิจกรรมของไบร์ม็อบเปลี่ยนจากคาร์ม็อบ เนื่องจากผู้มาร่วมกับกิจกรรมคาร์ม็อบส่วนใหญ่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ ดังนั้นจึงจะปรับเพื่อให้มีความสอดคล้อง โดยจะใช้แยกโศกเป็นฐานที่มั่นจัดกิจกรรมของไบร์ม็อบ เพื่อเป็นการปลุกระดมมวลชนออกมาร่วมกิจกรรมและเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการขับไล่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเชื่อมั่นว่ากระแสการตื่นตูมทางการเมืองของประชาชนมีมากและความรู้สึกต่อ พลเอก ประยุทธ์ ก็ตึงมากแล้ว ดังนั้นจะจัดกิจกรรมที่แยกอโศกเพื่อก่อกระแสปลุกระดมให้มวลชนออกมาร่วมกิจกรรม ซึ่งจะจัดกิจกรรมในแต่ละวันประมาณ 3 ชั่วโมง ประเมินสถานการณ์ 1 อาทิตย์ ก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่
โดยคาดว่า 19 กันยายน 2564 จะมีการจัดชุมนุมใหญ่ เนื่องจากตรงกับครบรอบ 15 ปี ของการรัฐประหาร โดยได้มีหารือร่วมกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
