fbpx
Home
|
ภูมิภาค

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในต่างจังหวัดยังพุ่งต่อเนื่อง

Featured Image
ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ชี้สถานการณ์โควิดฯยังน่าห่วง หลังพบ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เป็นสายพันธุ์อังกฤษติดง่ายและรวดเร็ว

นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ไม่สู้ดีและยังน่าเป็นห่วง และขณะนี้ยังมีเคสผู้ต้องสงสัยอีกบางส่วนซึ่งผลการตรวจจะเริ่มทยอยออกมา ซึ่งทุกเคสจะเกี่ยวเนื่องกับการเดินทางทั้งสิ้น โดยผู้ป่วยจะไปติดเชื้อโควิด-19  มาจากสถานบันเทิงในจังหวัดอื่นแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะจากการวินิจฉัยของแพทย์ก็ชี้ว่าเป็นเชื้อโควิดสายพันธ์อังกฤษซึ่งติดง่ายกับสายพันธ์เดิมถึง 1.7 เท่าและไม่แสดงอาการ แต่ทั้งนี้เนื่องจากทางสาธารณสุขจังหวัดฯยืนยันว่า ทุกเคสตามสถานการณ์ยังควบคุมได้ เพชรบูรณ์จึงยังไม่อยู่ในข่ายประกาศให้เป็นจังหวัดเสี่ยง

นายกฤษณ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ป้องกันได้ชัดเจนในเบื้องต้นก็คือหน้ากาก โดยสังเกตได้จากคลัสเตอร์ต่างๆในกลุ่มผู้ติดเชื้อเหล่านี้ มักเป็นผู้ไม่สวมหน้ากาก ในขณะที่สถานที่มีการสวมหน้ากากอย่างเคร่งครัดมักไม่ปรากฏ ส่วนมาตรการควบคุมป้องกันขณะนี้เริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจาก 5 จังหวัดเสี่ยง ได้ขอความร่วมมือให้ช่วยกักตัวเอง 14 วันรวมทั้งญาติพี่น้องด้ววย นอกจากนี้ทางจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดสถานบันเทิงที่เป็นห้องแอร์ ซึ่งมาตรการเหล่านี้อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกขึ้น แต่เนื่องจากการแพร่กระจายเชื้อโควิดในรอบนี้ค่อนข้างติดง่ายและรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องขอความร่วมจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะประชาชน ทั้งนี้เพื่อช่วยกัน Save เพชรบูรณ์โดยพวกเราต้องผ่านภัยเชื้อโรคร้ายในครั้งนี้ไปให้ได้

 

สกัดไม่อยู่! เพชรบูรณ์พบผู้ป่วยติดโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย ได้แก่ รายที่ 7,8 พบจัดปาร์ตี้บ้านเช่า SR

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เผยแพร่ไทม์ไลน์พบผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 2 รายได้แก่รายที่ 7 และรายที่ 8 ซึ่งตามข้อมูลไทม์ไลน์ระบุว่า ผู้ติดโควิด-19 รายที่ 7เป็นเพศหญิง อายุ 21 ปี โดยวันที่ 3 เม.ย.เวลา 22.00-02.00 น.จัดปาร์ตี้ที่บ้านเช่า SR แม่และเด็ก มาจากต่างจังหวัด 4 คน (เดินทางกลับหมดแล้ว) พนักงานชงเหล้า 4 คน รวมจำนวนคนในปาร์ตี้ทั้งหมด 9 คน , วันที่ 4-6 เม.ย. พักที่ห้องตลอดวันในห้องพักมีแฟนและเพื่อนมาหาที่ห้องพักจำนวน 8 คน, วันที่ 7 เม.ย.ได้รับแจ้งว้ามีคนในปาร์ตี้ตรวจพบเชื้อ วันที่ 8 เม.ย.เวลา 11.00 น.เดินทางไปตรวจที่ รพ.เพชรบูรณ์ หลังตรวจเวลา 16.00 น.กลับไปห้องพักรอฟังผลตรวจ วันที่ 9 เม.ย.เวลา 00.30 น.ได้รับแจ้งผลตรวจว่าพบเชื้อ

ส่วนไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายที่ 8 เป็นเพศหญิง อายุ 25 ปี วันที่ 2 เม.ย.ไปสถานบันเทิงลาดพร้าว-วังหิน และไปสถานบันเทิงเทอร์โบคลับรัชดา 18 ได้สูบบุหรี่กับเด็กเสิร์ฟของร้าน (เด็กเสิร์ฟผลยืนยันติดโควิด-19เมื่อ 8 เม.ย.เวลา 23.00 น.)  เวลา 05.00 น.กลับมาพักกับเพื่อนชายที่คอนโดลาดพร้าว (เพื่อนชายผลยืนยันติดโควิดเมื่อ 8 เม.ย.), วันที่ 3-6 เม.ย.พักที่คอนโดกับเพื่อนชายรัชดา ซอย 17 ไม่ได้ออกจากที่พัก, วันที่ 7 เม.ย.เวลา 11.00 น. ออกจากที่พักเดินทางกลับตำบลบ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมเพื่ออีก 2 คน, เวลา 13.00 น.แวะทานอาหารที่ร้าน Bird Bird ตรงข้าม MEGA HOME คลอง 1 ปทุมธานี ใช้เวลา 20 นาที เพื่อน 1คนแยกเดินทางกลับ จ.นครราชสีมา, เวลา 14.00 น.แวะปั้มน้ำมันบางจาก นวนคร, เวลา 18.00 น.ถึงบ้านพักที่ตำบลบ้านโภชน์

ต่อมาวันที่ 8 เม.ย. เวลา 13.40 น.มีอาการระคายคอ ไม่มีไข้ ทราลผลโควิด-19 เพื่อนชาย จึงเดินทางด้วยรถส่วนตัวไปตรวจเชื้อโควิด-19 ที่รพ.เพชรบูรณ์ พร้อมเพื่อน หลังตรวจเดินทางกลับพร้อมกัน, เวลา 18.00 น. เข้าพักห้องเดียวกับเพื่อนที่ MJ รีสอร์ท อ.หนองไผ่ เวลา 00.00 น.ได้รับแจ้งผลจาก รพ.เพชรบูรณ์ ผล Positive ในขณะที่เพื่อนอีกคนผลเป็น Nagative, วันที่ 9 เม.ย. เวลา 10.00 น.รพ.หนองไผ่นำรถไปรับตัวผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาที่ รพ.หนองไผ่

ภูเก็ต แถลง สถานการณ์ ผู้ติดเชื้อ covid-19 วันนี้ 17 ราย รวมยอดสะสม 43 ราย ขณะผู้ว่าฯยันไม่ปิดเมือง-ไม่กักตัว

นายแพทย์เฉลิมพลสุคนธผล กล่าวว่า ไวรัส covid-19 สายพันธุ์ ER 17 เป็นสายพันธุ์จากยุโรป เผยแพร่ได้รวดเร็ว แต่อาการจะไม่รุนแรง  เหมือนสายพันธ์อื่น ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น  ลิ้นไม่ได้รับรสมี ปวดเมื่อย ตาแดง หรืออาจมี อาการท้องเสียร่วมด้วย หรือมีผื่น ขึ้นตามตัว  สามารถกักตัวเองและเฝ้าดูอาการ อยู่ที่บ้าน ได้ 10 วันอาการจะหายเองแต่ถ้าอาการยังมีความรุนแรงมากขึ้นสามารถไป ตรวจได้ที่โรงพยาบาลของรัฐ ทั้ง4แห่งคือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตโรงพยาบาลฉลองโรงพยาบาลป่าตองและโรงพยาบาลถลางอย่างไรก็ตามขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมโรงพยาบาลสนามสำรองไว้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเคยใช้เป็นโรงพยาบาลสนามเมื่อปีที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของ covid-19 ระลอกแรก

มีจำนวนเตียง 150 เตียงและในช่วงบ่ายวันนี้ จะเปิดรับ ผู้ป่วยเข้าไปใช้ที่โรงพยาบาลสนาม ประมาณ 3-4 ราย เพื่อทดสอบระบบ ประมาณ เป็น เฟสแรกจัดเตรียมไว้ 50 เตียง

ในส่วนความคืบหน้าของการแจ้งความดำเนินคดีกับสถานบันเทิงทั้ง 3 แห่ง พล.ต.ต ภรศักดิ์ นวนหนู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่าขณะนี้ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับสถานบริการทั้ง 3 แห่ง ตามกฎหมายควบคุมโรคแล้วและอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวยืนยันว่าจังหวัดภูเก็ต ไม่ปิดจังหวัด และไม่มีการกักตัวนักท่องเที่ยวพี่น้องประชาชนสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้ ตามปกติแต่จะยกระดับความเข้มในการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ ทั้งทางบกทางอากาศและทางน้ำ โดยขอให้รักษามาตรการ DMHTT  ของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ในส่วนของผู้ที่มาจากจังหวัดเสี่ยง ขอให้แจ้งกับศูนย์ EOC แต่ละตำบลเพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามตัว หากพบว่า มีการแพร่เชื้อในพื้นที่

 

ผู้ว่าฯโคราช สั่งปิดสถานบริการแล้ว หลังยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ เพิ่มเป็น 39 คน พบอำเภอเมือง มากสุด 24 ราย

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด เรื่องการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 45/2564 ลงวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่มีมติให้ปิดพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่ออันตราย ได้แก่ สถานบริการ ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 , สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ , สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ,สถานประกอบกิจการอาบน้ำ ,สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน  โดยให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินการตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการตรวจพบผู้ป่วยระลอกใหม่เพิ่มขึ้นอีก 22 ราย จากเดิมเมื่อวานนี้ตัวเลขยังอยู่ที่ 17 รายเท่านั้น  ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ขณะนี้ รวม 39 รายแล้ว ทางจังหวัดฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา รักษามาตรการป้องกันควบคุมโรคฯอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา  ให้เว้นระยะห่างทางสังคม หมั่นล้างมือหรือล้างด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ  หลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่แออัด รวมทั้ง งดเดินทางไปในที่ที่มีคนหนาแน่น ,ตรวจวัดอุณหภูมิ สแกนไทยชนะ และสังเกตอาการของตนเอง โดยผู้ที่ไปในสถานที่ที่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19ในช่วงเวลาดังกล่าวตามไทม์ไลน์ ขอให้ติดต่อโรงพยาบาลในพื้นที่โดยด่วน เพื่อตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด เนื่องจากผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 22 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อมูลทางระบาดเพิ่มเติม

 

ผวา! ตำรวจนอนตายคาป้อมตรวจ คาดอาจเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว ประกอบกับทำงานหนัก-พักผ่อนไม่เพียงพอ

พ.ต.ท.ธวัชชัย ล่ามกิจจา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว รับแจ้งจาก ส.ต.ท.ครรชิต เย็นท่าเรือ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม ว่าพบตำรวจเสียชีวิตภายในตู้สายตรวจตำบลท่าเกษม สภ.เมืองสระแก้ว อ.เมือง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรุดที่เกิดเหตุและประสานแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว มูลนิธิหน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว เข้าตรวจสอบชันสูจน์ศพ

ที่เกิดเหตุเป็นสถานีที่พักสายตรวจ ต.ท่าเกษม สภ.เมืองสระแก้ว พบว่าผู้เสียชีวิตคือ ด.ต.นิพนธ์ แสนถมอายุ 52 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสระแก้ว นอนเสียชีวิตภายในสภาพศพสวมชุดข้าราชการตำรวจครึ่งท่อน เจ้าหน้าที่ต้องล้อมปิดกันพื้นที่ไว้ก่อนตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งก่อนเข้าทำการชันสูจน์ได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลท่าเกษมมาช่วยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าโดยจนท.ได้สวมชุด PPE ทุกคนเข้าเพื่อป้องกันตามมาตรการ

สำหรับ ดาบตำรวจนิพนธ์ (ผู้เสียชีวิต)ปฎิบัติหน้าที่เวรสายตรวจตำบลท่าเกษมฯ ตั้งแต่เวลา08.00 ของวันที่ 9เมษายน 2564 ถึงเวลา08.00 น.ของวันที่10 เมษายน 2564 และเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่10 เมษายน 2564 ส.ต.ท.ครรชิต เย็นท่าเรือ ได้มาสับเปลี่ยนเวร พบว่า ดาบตำรวจนิพนธ์ แสนถม (ผู้เสียชีวิต)ได้นอนในลักษณะคว่ำหน้า การแต่งกายครึ่งท่อนกางเกงกากีเสื้อยืดสีขาว โดย ส.ต.ท.ครรชิตฯ ได้ส่งเสียงเรียกผู้ตายแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ และขยับร่างผู้ตายไม่สัญญานชีพจร,ไม่หายใจ , มือทั้งสองข้างซีดเขียว จึงแจ้งสว่างให้มายังที่เกิดเหตุ และแจ้งไปยังศูนย์วิทยุ สภ เมืองสระแก้ว

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน และช่วงนี้อาจจะทำงานหนักและพักผ่อนไม่เพียงพออาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ด้านชุดสืบสวนตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบว่ามีการต่อสู้กันและในห้องพักไม่มีการรื้อค้น ทรัพย์สินยังอยู่

 

ขอนแก่นพบผู้ป่วยติดโควิด-19  อีก 11 ราย ยอดสะสมรวม 44 ราย รักษาตัวอยู่ใน 7 โรงพยาบาลจำนวน 31 ราย

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 11 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอยู่ที่ 44 ราย รักษาหายแล้ว 13 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตามโรงพยาบาล 7 แห่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 31 ราย โดยผู้ติดเชื้อใหม่ส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงพื้นที่เสี่ยง และทุกคนจัดอยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นขณะนี้ยังคงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  โดยล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 11 รายใหม่นี้ส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสเกี่ยวข้องคลัสเตอร์สถานบันเทิงในพื้นที่เสี่ยง อีกส่วนเป็นผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายเดิม ขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวที่ รพ.ขอนแก่น 13 ราย, รพ.ศรีนครินทร์ 11 ราย ,รพ.สิรินธร 2 ราย ,รพ.ชุมแพ 1ราย ,รพ.บ้านฝาง 1 ราย และ รพ.บ้านไผ่ 1 ราย รวม 31 ราย ซึ่งสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เพราะประขาชนเริ่มที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ขณะที่ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ทั้ง 11 รายที่พบว่าติดเชื้อนั้นยืนยันแล้วมาเป็นผู้ที่มีประวัติไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงที่ กรุงเทพฯและพื้นที่เสี่ยงเป็นส่วนใหญ่ และจากการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้ที่มาเกณฑ์ทหาร และผู้ที่มีประวัติสัมผัสในสถานบันเทิง

สงขลายอดโควิดพุ่งขึ้นอีก 10 คน รวม 18 ราย โดยเกือบทั้งหมดมาจากคลัสเตอร์ของหญิงพี่น้องชาว จ.กาญจนบุรี

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สงขลา เปิดเผยว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด จ.สงขลา ในวันนี้เพิ่มขึ้น 10 คน รวมกับยอดผู้ป่วยเดิมที่มีอยู่แล้ว 8 คน เป็นทั้งหมด 18 คน และมีผู้ที่รอการยืนยันอีก 5 คน โดยในจำนวนนี้ราว 15 คน มาจากคลัสเตอร์ของหญิง 2 พี่น้องชาว จ.กาญจนบุรี อายุ 71 ปี และ 69 ปี ที่นั่งเครื่องบินเดินทางลงมาร่วมเช้งเม้งไหว้บรรพบุรุษที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั้งในกลุ่มเพื่อน และญาติใกล้ชิดที่มีการพบปะกัน

ซึ่งในส่วนของ 2 พี่น้องดังกล่าวนั้น ผู้เป็นพี่สาวได้รับเชื้อมาจากลูกชายที่เดินทางไปร่วมงานแต่งเพื่อน และไปเที่ยวสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ก่อนจะมาทราบว่าลูกชายติดโควิด เมื่อตนเองและน้องสาวเดินทางมาถึง และพบปะกับเพื่อนและญาติพี่น้องที่ อ.หาดใหญ่ แล้ว จึงทำให้มีการแพร่เชื้ออกไปโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว

ในขณะที่อีก 3 ราย ที่เหลือนั้น เป็นหญิงสาวอายุ 42 ปี ที่เดินทางกลับมาจากเที่ยวสถานบันเทิงที่กรุงเทพฯ ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุ 70 ปี ชาว จ.ปัตตานี ซึ่งไปรับรักษาอาการไข้หวัดที่จ.นราธิวาส แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงมาตรวจรักษาที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ และพบเชื้อโควิด

ส่วนรายสุดท้ายเป็นบุคลากรในคณะแพทย์ ม.อ. อายุ 30 ปี ซึ่งเดินทางกลับมาจากรุงเทพฯ และพบเชื้อโควิด โดยได้มีการตรวจเชิงรุกผู้ที่ร่วมประชุมกับบุคลากรรายนี้ทั้งหมด 20 คน ซึ่งไม่พบเชื้อเพิ่มเติม แต่ยังคงให้กักตัวดูอาการต่อไปจนครบ 14 วัน และทำความสะอาดห้องที่ใช้ประชุมร่วมกัน

โดยขณะนี้ผู้ป่วยโควิดทั้งหมดใน จ.สงขลา ได้เข้ารับการรักษาทั้งในโรงพยาบาลหาดใหญ่ และ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และทุกคนปลอดภัย

ทั้งนี้ทาง จ.สงขลา ยังได้ขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนยกเลิกการจัดกิจกรรมต่างๆในช่วงสงกรานต์ที่เป็นการรวมกลุ่มของคนหมู่มาก และสถานบริการรวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆต้องหยุดให้บริการในช่วงนี้ไปก่อนตามที่ทางส่วนกลางได้ประกาศออกมา

พัทลุง แถลงข่าวยืนยันพบผู้ป่วยโควิด 2ราย กลุ่มเสี่ยงเป็นตำรวจ 68ราย รู้ผลพรุ่งนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงจนท.ให้กักตัว

นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง และ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ร่วมแถลงข่าวยืนยันกรณีพบผู้ป่วยติดโรค โควิด-19 ซึ่งเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจที่มาฝึกปฏิบัติราชการ สภ. ตะโหมด จำนวน 2 ราย ซึ่งจากไทม์ไลน์นักเรียนนายสิบตำรวจฝึกปฏิบัติราชการ สภ. ตะโหมด

คนแรกรับเชื้อมาจากกลุ่มคลัสเตอร์ และแพร่เชื้อให้กับเพื่อนนักเรียนนายสิบตำรวจฝึกปฏิบัติราชการ สภ. ตะโหมด ด้วยกัน และจากไทม์ไลน์ของทั้งคน 2 คนนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ สภ.ตะโหมด และได้เดินมาไปหลายที่ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 68 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของ สภ.ตะโหมด และสภ.เมืองพัทลุง ส่วนผลตรวจสารคัดหลั่งของกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 68 คนนั้น จะทราบผลในวันนี้พรุ่ง

ทางด้านนายแพทย์ ดุษฎี คงตระกูลทรัพย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าผู้ป่วยที่พบติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่จำนวน 2 รายนั้นรายแรกรับเชื้อจากกลุ่มคลัสเตอร์ และมาแพร่เชื้อให้เพื่อนร่วมงานที่ สภ.ตะโหมด ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่ามีกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 68 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและลูกจ้าง สภ.ตะโหมด จำนวน 62 ราย และเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจฝึกปฏิบัติราชการ สภ.เมืองพัทลุงอีกจำนวน 6 ราย ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้การกักตัวเวลา 14 วันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมตรวจหาเชื้อจากสารคัดหลั่งโดยจะทราบผลตรวจในวันพรุ่งนี้

ส่วนผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้กักตัวบริเวณที่พักของตนเอง ส่วนผู้ป่วยทั้ง 2 รายนั้นจากการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลตะโหมด พบว่าอาการดีขึ้น และหากพบว่ากลุ่มเสี่ยงสูงติดเชื้อโรคโควิด ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แพทย์ พยาบาล ของจังหวัดพัทลุง พร้อมรับมือ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube