fbpx
Home
|
ภูมิภาค

พังงากักตัวกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์ยะลา21วัน

Featured Image
พังงาสั่งกักตัวกลุ่มเสี่ยง คลัสเตอร์ยะลา เป็นเวลา 21วัน หลังมีรายงานเป็น สายพันธุ์เบตาแอฟริกา

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกเมษายน 2564 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งสถานการณ์ ล่าสุดในวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 3 ราย อยู่อำเภอคุระบุรี เป็นชาวไทย1ราย ชาวต่างด้าว 2 ราย อยู่ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี มียอดผู้ป่วยสะสม 211 ราย ส่วนผู้ป่วยใน คลัสเตอร์ ที่เดินทางมาจากโรงเรียนตะห์ฟีซุลกรุอานมัรกัส จ.ยะลา จำนวน 5 ราย และคนในครอบครัวติดเชื้อ 1 ราย ให้มีการกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเดิม 14 วัน เพิ่มเป็น 21 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากมีรายงานว่าเป็นการติดเชื้อเป็น สายพันธุ์เบตาแอฟริกา

 

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ในชุมชนแพปลาบ้านหินลาด ม.3 ต.คุระ อ.คุระบุรี เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากมีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ทั้งชาวไทยและแรงงานข้ามชาติ กว่า3,000 คน ตรวจเรือประมงพาณิชย์ ไป108 ลำ พบผู้ติดเชื้อ 131 ราย

โดยล่าสุดจังหวัดพังงา ได้วางมาตรการผ่อนคลายสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และสร้างความมั่นใจในการควบคุมโรคให้กับพี่น้องประชาชน โดยให้เรือประมงที่นำปลามาขึ้นฝั่งทุกลำ คนในเรือกับคนบนฝั่งจะต้องไม่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เมื่อขึ้นปลาเสร็จคนเรือจะต้องลงเรือทั้งหมดเอาไปจอดลอยลำนอกแพ คนบนฝั่งจึงจะสามารถเข้าไปปฏิบัติการได้ การซื้อปลาจะต้องเว้นระยะห่างจัดคิวการซื้อได้ทีละเจ้า ไม่ให้มีการพลุกพล่าน

 

 

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปในหมู่ 3 บ้านหินลาด จะต้องฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แล้ว 1 เข็ม หรือซิโนแวค 2 เข็ม หรือใบรับรองการตรวจโรค ภายใน 72 ชั่วโมง อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น โดยมีบริษัทเอกชนมาตั้งจุดรับตรวจ Rapid Test ก่อนเข้าชุมชน ให้กับผู้ที่ต้องเดินทางเข้าออกแพปลาบ้านหินลาด โดยจะคิดค่าบริการคนละ 500 บาท ขณะที่ผู้ประกอบการได้เรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีน100% โดยเร็วในพื้นที่และผู้ที่ต้องเข้าออกเป็นประจำ

 

พังงาสั่งกักตัวกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์ยะลา-2

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube