fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

คลังชู 8มาตรการ อุ้มปชช.เน้นก๊าซ,น้ำมัน

Featured Image
กระทรวงการคลัง ชู 8 มาตรการช่วยเหลือประชาชน เน้นอุดหนุนราคาก๊าซ,น้ำมัน-สอท.,บสย.ช่วยSMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนรับเปิดประเทศ

 

 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมงาน FTI EXPO 2022 และเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือ “การสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ”

 

โดยระบุว่า กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน แล้วรวม 8 มาตรการ คือ 1. มาตรการตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV อยู่ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ให้กับผู้ประกอบการอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ อยู่ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม 2. มาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล

 

ขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร 3. มาตรการบริหารราคาน้ำมันดีเซล กรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศยังคงสูงเกินราคาที่กำหนดไว้ที่ 35 บาท/ลิตร รัฐจะอุดหนุนราคาส่วนเพิ่มร้อยละ 50 4. มาตรการขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ขอความร่วมมือโรงกลั่นน้ำมัน และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ

 

นำส่งกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลและเบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 5. มาตรการช่วยเหลือด้านราคาก๊าซ LPG กำหนดราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม ช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 100 บาท/คน/3 เดือน

 

ช่วยเหลือลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 100 บาท/คน/3 เดือน 6. มาตรการประหยัดพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันประหยัดพลังงาน 7. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมภายในประเทศ ให้หักรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการอบรมและสัมมนาภายในประเทศ

 

ในจังหวัดท่องเที่ยวรอง จำนวน 2 เท่าของรายจ่ายจริง และในจังหวัดอื่น จำนวน 1.5 เท่า และ 8. มาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ให้หักรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าเช่าพื้นที่หรือค่าบริการในการเข้าร่วมงานออกร้านงานนิทรรศการ หรืองานแสดงสินค้าในประเทศ เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายจริง และในวันนี้ได้มีการลงนามความร่วมมือ “การสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ” ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขานรับนโยบายเปิดประเทศร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย สนับสนุนผู้ประกอบการทั้งระบบ

 

โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเป็นผู้ผลักดันให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมสามารถรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือกับ บสย.

 

โดย บสย. จะสนับสนุนด้านความรู้ทางการเงินและธุรกิจ ดำเนินกิจกรรมให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิก ส.อ.ท. ให้เข้าถึงแห่งทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพยกระดับศักยภาพด้านต่างๆ อาทิ การให้คำปรึกษาด้านการเงิน ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A. Center

 

ทั้งด้านการเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ การบริหารจัดการเงินทุน การปรับโครงสร้างหนี้ และการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีสมาชิกของ ส.อ.ท. ให้ความสนใจรับคำปรึกษาด้านการเงินภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวกว่า 200 บริษัท การอบรมให้ความรู้ “รู้ข้อดีบัญชีเดียว พร้อมตัวช่วย” และ “การวิเคราะห์งบการเงินสำหรับ CEO ” ซึ่งหลังจากนี้จะให้ความร่วมมือในกิจกรรมอื่นๆ

 

ทั้งการช่วยเหลือด้านการค้ำประกันสินเชื่อแก่สมาชิก ส.อ.ท. การพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ อาทิ ด้านการตลาดและเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในกระบวนการผลิต การส่งเสริมและผลักดันสมาชิกสู่ BCG ECONOMY MODEL

 

ด้านนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ สอดรับกับนโยบายการเปิดประเทศ และการส่งเสริมการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งทุน ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นศูนย์กลาง การเชื่อมโยงเงินทุน และโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SMEs”

 

โดยการลงนามความร่วมมือ “การสนับสนุนผู้ประกอบการ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อการดำเนินธุรกิจ” ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ บสย. ในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตอบรับการเปิดประเทศ เพื่อผลักดันการเสริมสร้างให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube