fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

“ชัชชาติ” รับข้อเสนอปมรถไฟฟ้ายังไม่เคาะราคา

Featured Image
ผู้ว่าฯ กทม.รับข้อเสนอเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ถกราคารถไฟฟ้าต้องฟังทุกฝ่าย ทำให้เป็นธรรมที่สุด ยังไม่เคาะราคา

 

 

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับหนังสือข้อเสนอแนะจากสภาองค์กรของผู้บริโภคหลังได้ใช้เวลาพูดคุยกับตัวแทนสภาองค์กรของผู้บริโภค นานกว่า 30 นาที โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือ สอบ. บอกว่าเป็นการพบกันเพื่อรับฟังปัญหาของผู้บริโภค ที่คนกรุงเทพฯ มีความลำบากในการใช้บริการเพราะราคาค่าโดยสารแพง

 

โดยวันนี้ได้ยื่นข้อเสนอ 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ขอให้ยกเลิกเพดานราคาค่าโดยสารสูงสุดที่ 59 บาท และเห็นด้วยที่จะให้มีการเก็บค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงห้าแยกลาดพร้าวถึงคูคต ในราคา 15 บาท

 

2.ขอให้กรุงเทพมหานครใช้ราคา 44 บาทเก็บค่าโดยสาร เพื่อดูแลบริษัทรับสัมปทาน คือ บีทีเอส และใช้เป็นต้นแบบให้กับรถไฟฟ้าสายอื่นต่อไป 3.ขอให้มีการแก้ไขสัญญาการเดินรถที่เกินปี 2585 ซึ่งเป็นการทำสัญญาเกิน สัญญาสัมปทาน

 

4.สนับสนุนให้กรุงเทพมหานคร ไม่ต่อสัญญาสัมปทาน และ ขอให้ใช้วิธีการประมูลการทำสัญญาแบบ PPP และ 5. หลังหมดสัญญาสัมปทานแล้ว ราคาค่าโดยควรอยู่ที่ 25 บาทและขอให้มีการนำตั๋วแบบรายเดือนกลับมาใช้ใหม่

 

ขณะที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ระบุว่า การกำหนดราคา 59 บาท เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ตามข้อเสนอแนะของทีดีอาร์ไอ ซึ่งกรอบราคา 44 บาทตามการเสนอของ สอบ.นั้น ต้องดูความเป็นไปได้ว่าจะต้องจ่ายเงินชดเชยเท่าไหร่ และต้องไปเปรียบเทียบกับค่าโดยสารสายอื่นๆด้วย

 

ซึ่งวันนี้เป็นการรับข้อเสนอที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ได้มีการรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งจะต้องดูให้สมดุล และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งคนที่ใช้รถไฟฟ้าและไม่ได้ใช้ ทั้งนี้ สัญญาว่าจ้างเดินรถที่มีการลงนามไว้ จากปี 2572 ไปสิ้นสุดปี 2585 คือสิ่งที่ค้ำคอการตัดสินใจของกรุงเทพมหานคร เพราะมีค่าใช้จ่ายหลักกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี การเปลี่ยนแปลงสัญญาจะต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้องได้ในอนาคต

 

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงภาระหนี้ที่กรุงเทพมหานครยังติดค้างจ่ายเอกชน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า หากจะต้องจ่ายก็จะต้องมีความชัดเจน ที่มาที่ไปของภาระหนี้ที่เกิดขึ้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่โดยเฉพาะจากภาคเอกชน และจะต้องมาพิจารณาดูด้วยว่าเงินที่จะนำมาชำระหนี้นั้น จะมาจากแหล่งเงินกู้ใด ซึ่งหากมีการกู้รัฐบาล ดอกเบี้ยก็จะถูกกว่าเอกชน และส่วนใดที่รัฐบาลจะเข้ามาสนับสนุนกทม.ได้บ้าง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube