เอกชนวอนรัฐบาลช่วยบรรเทาผลกระทบค่าไฟ ขึ้นราคาตอนนี้ไม่เหมาะซ้ำเติมเกินไป สินค้าขาดแคลนได้
หลังจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีมติให้ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาทต่อหน่วยนั้น
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมต้นทุนการผลิตสินค้าของผู้ประกอบการ รวมถึงเพิ่มภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยค่าไฟฟ้าถือเป็นผลกระทบในวงกว้างของทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ต้นทุนการผลิตสินค้าจะสูงขึ้น แต่กับผู้ประกอบการรายเล็กที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นได้ก่อนหน้านี้ ก็จะยิ่งถูกซ้ำเติมมากขึ้น
มองว่าทางเดียวที่จะช่วยได้คือรัฐบาลจะต้องมีการพิจารณาอุดหนุนในเรื่องของค่ากระแสไฟฟ้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จนกว่าภาระต้นทุนการผลิตในส่วนอื่นจะปรับตัวลดลงมาได้บ้าง หากปล่อยไปอาจเห็นภาวะสินค้าขาดแคลนเพราะผู้ประกอบการต้องหยุดการผลิต
และโดยส่วนตัวมองว่าการปรับค่ากระแสไฟฟ้าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเพราะทุกฝ่ายยังไม่ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และยังมีปัจจัยสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังไม่คลี่คลายซ้ำเติมอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews